วิธีวัดโครงหน้าง่าย ๆ ตรวจรูปหน้าได้ด้วยตัวเอง

              รูปทรงดวงตาที่สวยงาม ต้องเข้ากับรูปทรงใบหน้า นอกจากจะรู้ลักษณะดวงตาแล้ว การรู้ลักษณะรูปหน้าของตัวเอง จะช่วยในการเลือกลักษณะตาสองชั้นที่เข้ากับหน้ามากที่สุด ใครมีแพลนจะทำตา มาเรียนรู้ลักษณะรูปหน้าของตัวเองกันก่อน เป็นวิธีที่ใครๆ ก็ทำได้ ไม่ยากเลย

Table of Contents

1. จะวัดโครงหน้าต้องทำอย่างไรบ้าง
2. จะรู้ได้อย่างไรว่าทรงหน้าเราเป็นแบบไหน
3. การรู้โครงหน้าช่วยอะไรเราได้บ้าง

 

             โครงหน้า หรือรูปทรงของใบหน้า ที่ประกอบด้วยความกว้าง และความยาวของกรอบหน้า เราสามารถวัดกรอบหน้า เพื่อหาคำตอบว่าแต่ละคนมีโครงหน้าเป็นแบบไหน โดยส่วนใหญ่แล้ว จะวัดความยาว ตั้งแต่โคนผมถึงปลายคาง ส่วนความกว้าง จะแบ่งได้คร่าวๆ เป็นความกว้างของหน้าผากและความกว้างของโหนกแก้ม รวมถึงวัดสันกราม แล้วนำตัวเลขมาประมวลผล เพื่อเปรียบเทียบกับโครงหน้ารูปแบบต่างๆ โดยขั้นตอนของการวัดกรอบหน้า อาจทำตามคำแนะนำง่ายๆ ดังนี้

1. เตรียมอุปกรณ์ 

ใช้อุปกรณ์พื้นฐานอย่างสายวัดตัว หรือหากไม่มีสามารถใช้ไม้บรรทัดแทนได้ ปากกา หรือดินสอ และกระดาษสำหรับจดตัวเลข

2. วัดความยาวใบหน้า

ความยาวใบหน้า เป็นระยะที่ยาวที่สุดของใบหน้า นำสายวัดตัวหรือไม้บรรทัดทาบเพื่อวัดความยาว โดยเริ่มต้นที่บริเวณโคนผม หรือไรผม วัดลงมาสิ้นสุดระยะที่ส่วนล่างสุดของใบหน้า คือตรงคาง จากนั้นบันทึกตัวเลขที่ได้ลงกระดาษ

3. วัดความกว้างใบหน้า

ความกว้างใบหน้า แบ่งออกเป็นสองส่วน 

• วัดความกว้างของหน้าผาก โดยเริ่มต้นวัดจากขมับข้างหนึ่ง สุดที่ขมับอีกข้าง จากนั้นบันทึกตัวเลขที่ได้ลงกระดาษ 
• วัดความกว้างของโหนกแก้ม ซึ่งโหนกแก้มอยู่บริเวณแก้มทั้งสองข้าง เป็นส่วนที่นูนมากที่สุด บางคนอาจมีโหนกแก้มสูง หรือโหนกแก้มใหญ่แตกต่างกัน โดยวัดความยาวจากโหนกแก้มด้านหนึ่งไปยังอีกด้าน แล้วบันทึกตัวเลขที่ได้เอาไว้

4. วัดสันกราม

เริ่มวัดจากบริเวณขากรรไกรข้างหนึ่ง ลงมายังปลายคาง ส่วนใบหน้าอีกข้าง ก็ให้ทำแบบเดียวกัน รวมผลลัพธ์ทั้งสองข้าง ได้ความยาวของสันกราม และจดเอาไว้

5. วัดไรผม

การวัดไรผม วัดจากบริเวณขอบล่างสุดของโคนผม ลงมายังบริเวณล่างสุดที่มีลูกผม บางคนมีไรผมที่สูง หรือไรผมน้อย ดูบางมาก ก็อาจทำให้หน้าผากดูกว้างเกินได้

 

1. โครงหน้ารูปไข่ (วงรี)

         เมื่อเปรียบเทียบโครงหน้าต่างๆ แล้ว อาจพูดได้ว่าโครงหน้ารูปไข่ เป็นลักษณะโครงหน้าในฝันของใครหลายๆ คน เพราะเป็นรูปแบบใบหน้าที่ได้สัดส่วน มีความโค้งมนสมมาตรมากกว่ารูปแบบใบหน้าแบบอื่นๆ แต่โครงหน้ารูปไข่ ไม่มีกรอบหน้าชัดเจน จึงอาจทำให้ขาดความคม สามารถใช้การแต่งหน้า หรือแต่งรอบดวงตา เพื่อช่วยเพิ่มความโดดเด่นได้    

จุดสังเกต

โครงหน้าชนิดนี้ จะมีขนาดความยาวของใบหน้ามากกว่าความกว้างของใบหน้า ช่วงหน้าผากกว้างกว่าช่วงคางเล็กน้อย ทำให้คางดูเรียวเล็ก โค้งมนไม่เป็นสัน มีโหนกแก้มที่กว้างอย่างเด่นชัด สัดส่วนใบหน้ามีความสมดุล ช่วงโคนผมถึงคิ้ว คิ้วถึงปลายจมูก และปลายจมูกถึงปลายคาง จะมีระยะห่างเท่ากัน รูปทรงโดยรวมดูเหมือนไข่ไก่ที่กลับหัวเอาด้านเล็กกว่าลง

บุคลิกภาพหลักของคนโครงหน้ารูปไข่

โดยปกติแล้วคนที่มีโครงหน้ารูปไข่ เป็นคนหัวดีหัวไว ปรับตัวได้เร็ว มักได้รับการช่วยเหลือจากคนรอบข้างเสมอ เป็นคนมีสไตล์ รักสวยรักงาม แต่งตัวเก่ง ชอบความสบาย รักศิลปะ ร่าเริง เป็นกันเอง ดูเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย มักจะมีคำพูดดีๆ ให้กับคนรอบข้างเสมอ สะท้อนคาแรคเตอร์ของดวงตาที่สดใสสอดคล้องกับโครงหน้าได้ชัดเจน แต่หากมีลักษณะหางตาตก ก็จะทำให้หน้าดูเศร้าอมทุกข์อย่างชัดเจน

เหมาะกับตาแบบไหน 

สำหรับคนใบหน้ารูปไข่นั้น สามารถทำตาสองชั้นได้ทุกรูปแบบ สำหรับคนอยากเป็นสาวมั่น ก็อาจจะลองทำตาสายฝอ ที่ดูเฉี่ยวแพง หรือสำหรับคนที่อยากเพิ่มดีกรีความสดใส ก็อาจทำตาสองชั้นสายเกาได้เช่นกัน

2. โครงหน้าทรงกลม

         โครงหน้าทรงกลม มีความอิ่มเอิบของใบหน้า เป็นลักษณะหน้าตาที่ดูอ่อนโยนใจดี และดูอ่อนกว่าวัย จุดเด่นอยู่ที่ความกลมมนของใบหน้า และพวงแก้มที่กลมกลึง มีเส้นโค้งเป็นองค์ประกอบหลัก ไม่มีความคมชัดของกรอบหน้า

จุดสังเกต

โครงหน้าทรงกลม ความกว้างของใบหน้าจะเท่ากับ หรือเกือบเท่ากับความยาวของใบหน้า หน้าผากมีความกว้าง ดูโค้งมน บริเวณแก้มอวบอิ่ม บริเวณคางมีความป้าน ไม่มีเหลี่ยม ไม่มีมุม กรอบหน้าโดยรวมดูกลมกลืน ละมุนเข้ากันทั้งใบหน้า เหมือนกับใบหน้าของเด็กน้อย

บุคลิกภาพหลักของคนโครงหน้าทรงกลม

หน้าทรงกลม มีบุคลิกภาพที่ดูน่ารัก น่าคบหา เป็นคนใจนิ่ง ใจกว้าง และใจเย็นจนบางครั้งดูเหมือนไม่กระตือรือร้น เป็นคนเข้าสังคมเก่ง มักจะนึกถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ ชอบเสียสละ มีพลังบวกเยอะ ทำให้เป็นที่รักของคนจำนวนมาก 

เหมาะกับตาแบบไหน

ความกลมมนของใบหน้า หากมีดวงตาที่เฉี่ยวคม ดวงตาที่เรียวยาว ได้สัดส่วน หางตายกเชิดขึ้นเล็กน้อย จะช่วยเสริมความโดดเด่น และเพิ่มความมั่นใจ สามารถศัลยกรรมเปิดหางตา เพื่อเพิ่มความเรียวยาวของมุมหางตาให้คมเฉี่ยวและดูสวยงามมากขึ้น 

3. โครงหน้ารูปเพชร 

         โครงหน้ารูปเพชร เป็นตัวแทนรูปทรงใบหน้าที่ดูแข็งแกร่ง ดูมีอำนาจ ด้วยกระดูกโหนกแก้มที่ชัดเจน และกรามที่เล็ก ทำให้ใบหน้าดูมีเหลี่ยมมีมุมเยอะ มองจากภายนอกจึงเห็นความดุ ความเด็ดขาดในตัวคนที่มีโครงหน้ารูปทรงนี้

จุดสังเกต

ลักษณะโครงหน้ารูปเพชร ความกว้างของโหนกแก้มจะโดดเด่นมากที่สุด และมองเห็นคางได้ชัด ส่วนความกว้างของหน้าผากและคาง จะมีขนาดใกล้เคียงกัน และดูแคบกว่าโหนกแก้มอย่างชัดเจน เป็นรูปแบบใบหน้าที่มีมิติอย่างเห็นได้ชัด

บุคลิกภาพหลักของคนโครงหน้ารูปเพชร

หากมองจากภายนอกอาจเข้าใจว่าคนที่มีลักษณะโครงหน้ารูปเพชร เป็นคนชอบวางอำนาจ ทั้งที่ความจริงแล้วคนโครงหน้าทรงนี้ เพียงแต่เป็นคนที่เชื่อมั่น มีรสนิยม หรูหรา มั่นใจในตัวเอง แข็งแกร่ง กล้าแข็ง ไม่ยอมอ่อนข้อ และระมัดระวังตัวเอง ทำให้บางครั้งคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้ แต่คนที่มีใบหน้ารูปทรงนี้มักจะประสบความสำเร็จในชีวิต

เหมาะกับตาแบบไหน

สไตล์ของดวงตาที่เหมาะกับโครงหน้ารูปเพชร เน้นความซอฟท์ใสเป็นหลัก เพื่อบาลานซ์ความแข็งกร้าวของโครงหน้า ควรมีดวงตาที่กลมโต มีชั้นตาที่โค้งสวยรับกับรูปหน้า ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูหวานละมุนขึ้น ซึ่งการทำตาสองชั้น ร่วมกับการเปิดหัวตา ตอบโจทย์คนที่มีโครงหน้ารูปเพชรเป็นอย่างดี 

4. โครงหน้ารูปหัวใจ

         โครงหน้ารูปหัวใจ เป็นใบหน้าสไตล์ไอดอลเกาหลี ที่มีใบหน้าดูเรียวเล็ก ขนาดของใบหน้าเมื่อเทียบกับขนาดช่วงตัวแล้วดูเล็ก สำหรับคนเกาหลี ถือว่าใบหน้าแบบนี้ดูดีมาก 

จุดสังเกต

หน้าผากกว้าง ดูโดดเด่น มีไรผมหยักตรงกลางคล้ายรูปหัวใจ มีโหนกแก้มเด่น ใบหน้าส่วนล่างและปลายคางแหลมเล็ก คล้ายโครงหน้ารูปเพชร แต่คนที่มีโครงหน้ารูปหัวใจ จะมีหน้าผากกว้างกว่า ใบหน้าดูเรียวตลอดแนวจนถึงช่วงคาง

บุคลิกภาพหลักของคนโครงหน้ารูปหัวใจ

เป็นลักษณะโครงหน้าที่มีเสน่ห์ ดึงดูดผู้คนได้เป็นอย่างดี มีความสนุกสนาน แพรวพราว ชอบผจญภัย เข้าสังคมเก่ง เป็นคนฉลาดและมีความคิดสร้างสรรค์ มีความทะเยอทะยาน มั่นใจในตัวเองสูง และมีความหัวแข็งอยู่ในตัว

เหมาะกับตาแบบไหน

ลักษณะโครงหน้ารูปหัวใจ เหมาะกับดวงตาเรียวยาวสมส่วน สามารถเปิดหัวตา ร่วมกับการเปิดหางตา เพื่อให้ดวงตาดูเรียวยาวได้สัดส่วนมากขึ้นได้

5. โครงหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า 

         คนที่โครงหน้าเหลี่ยมผืนผ้า ขอบอกเลยว่าโชคดีมาก เพราะเป็นทรงหน้าที่ดูหรู ดูมีคลาส มีช่วงกรามที่ดูโดดเด่นเป็นพิเศษ ทำให้โครงหน้าชัด สวยสายฝอ ดูอินเตอร์

จุดสังเกต

โครงหน้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีมุมกรามและมุมหน้าผากที่มีความเหลี่ยมมากกว่าโครงหน้าอื่นๆ ความกว้างของหน้าผากจะเท่ากับความกว้างของบริเวณขากรรไกร โดยที่ขนาดความยาวของใบหน้า จะมากกว่าความกว้างของใบหน้า ช่วงกรามสวย ถือเป็นจุดเด่นของใบหน้า  

บุคลิกภาพหลักของคนโครงหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า

คนที่มีโครงหน้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า ถือว่าเป็นคนที่น่าคบคนหนึ่งเลย เป็นคนเข้มแข็ง แต่อ่อนน้อม เฉลียวฉลาด รู้จักวางตัว ไม่ไยดีกับเรื่องไร้สาระ มีภาวะผู้นำ และมีน้ำใจ

เหมาะกับตาแบบไหน

โครงหน้าเหลี่ยมผืนผ้า เหมาะกับรูปทรงดวงตาทุกรูปแบบ แต่หลายคนจะชอบแนวการทำตาสายฝอ ซึ่งเป็นการทำตาสองชั้น เพิ่มความคมชัดให้กับชั้นตา อาจทำร่วมกับการดึงกล้ามเนื้อตา ช่วยให้ตาสดใส ไม่ดูอิดโรย ตาไม่ปรือ และการเปิดหางตา ยกหางตาให้เชิดขึ้น ดูเฉี่ยวสไตล์ฝอมากขึ้น

6. โครงหน้าทรงสี่เหลี่ยม

          โครงหน้าสี่เหลี่ยมจัตุรัส ให้ความรู้สึกหรูหรา ดูแพงเช่นเดียวกับโครงหน้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่ด้วยความที่ใบหน้าทุกด้านมีขนาดใกล้เคียงกัน จึงช่วยเพิ่มความน่ารัก อ่อนเยาว์ ทำให้ดูละมุนกว่าเล็กน้อย

จุดสังเกต

โครงหน้าสี่เหลี่ยม มีความยาวและความกว้างของใบหน้าใกล้เคียงกัน ความกว้างของหน้าผาก โหนกแก้ม และขากรรไกรมีความใกล้เคียงกัน ทำให้กรอบหน้าดูเป็นเส้นตรง บริเวณกระดูกกรามดูชัดและโดดเด่นมากที่สุด

บุคลิกภาพหลักของคนโครงหน้าทรงสี่เหลี่ยม

เป็นคนตรง ฉลาดหลักแหลม ค่อนข้างเอาแต่ใจ มีจิตใจที่แข็งแกร่ง อดทนอดกลั้น สามารถรับมือกับปัญหาหลายรูปแบบได้ดี

เหมาะกับตาแบบไหน

รูปแบบดวงตาที่เข้ากันได้ดีกับโครงหน้าเหลี่ยม เป็นไปได้ทุกรูปแบบ แต่ชั้นตาชัดเจน ดูเป็นธรรมชาติ จะช่วยให้ใบหน้าดูหวานขึ้น สามารถทำตาสองชั้น พร้อมตกแต่งหนังตาเกินออก เพื่อช่วยกำจัดหนังตาและไขมันเกิน ให้ชั้นตาชัด แก้ปัญหาตาตก ตาชั้นเดียว ตาหลบในได้เป็นอย่างดี 

7. โครงหน้าทรงสามเหลี่ยมหงาย (ทรงลูกแพร์)

         ใบหน้าทรงลูกแพร์ มีลักษณะตรงข้ามกับใบหน้าทรงหัวใจ ด้วยสันกรามสวยชัดโดดเด่น เห็นกล้ามเนื้อใบหน้าที่ดูชัดเจน เป็นลักษณะใบหน้าที่ดูมีมิติ สังเกตง่าย 

จุดสังเกต

ส่วนของหน้าผากแคบ และบริเวณกรามหรือขากรรไกรกว้างออกกว่าบริเวณอื่นอย่างชัดเจน ทำให้รูปร่างของใบหน้าเป็นทรงสามเหลี่ยมหงายเอาด้านแหลมขึ้น ดูคล้ายผลไม้อย่างลูกแพร์ หรือลูกชมพู่

บุคลิกภาพหลักของคนโครงหน้าทรงสามเหลี่ยมหงาย (ทรงลูกแพร์)

คนที่มีโครงหน้าทรงลูกแพร์ รักอิสระ ขยัน สุภาพเรียบร้อย อดทนเก่ง บางครั้งชอบเรียกร้องความสนใจ เอาแต่ใจตัวเองบ้าง แต่ไม่ก้าวร้าว ชอบควบคุมคนอื่น และมักพาความสำเร็จมาให้กับทีม 

เหมาะกับตาแบบไหน

คนโครงหน้าทรงสามเหลี่ยมหงาย เหมาะกับทรงดวงตาสดใส ช่วยเพิ่มจุดเด่นให้กับใบหน้าส่วนบนมากขึ้น ดวงตาที่กลมโต ดูมีชีวิตชีวา ทำให้ช่วงหน้าผากที่แคบดูกว้างขึ้น สว่างไบร์ทขึ้น เทคนิคทำตาที่นำมาใช้ให้ดวงตาดูสดใสขึ้น มีทั้งการทำตาสองชั้น ดึงกล้ามเนื้อตา และการยกหางตาซ่อนแผลใต้คิ้ว ขึ้นอยู่กับปัญหาตาของแต่ละคน  

 

 

• ช่วยในตัดสินในการเลือกทรงตาสองชั้น

         การเลือกทรงตาสองชั้นที่ดี ช่วยสร้างบาลานซ์ให้กับโครงหน้าได้มากขึ้น เช่น การทำตาสองชั้น ช่วยเพิ่มเส้นโค้งให้กับโครงหน้ารูปเพชร ให้ดูมีความอ่อนโยน ดูละมุนมากขึ้น หรือการเปิดหางตา ก็ช่วยเพิ่มวอลุ่มให้กับโครงหน้าทรงกลม ช่วยให้ใบหน้าดูเฉี่ยวขึ้น เป็นต้น

• ช่วยในเรื่องการศัลยกรรมใบหน้า

         ปัจจุบันมีการศัลยกรรมใบหน้าหลากหลายรูปแบบที่ช่วยปรับโครงหน้า เช่น การเสริมหน้าผาก การทำตาสองชั้น การเสริมจมูก การเสริมคาง การตัดโหนกแก้ม การตัดกราม เป็นต้น หากเริ่มต้นตั้งแต่การรู้จักโครงสร้างใบหน้าตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว รวมถึงรู้ว่าต้องการมีโครงหน้าแบบใด จะช่วยให้ผู้รับบริการมองเห็นภาพ สามารถพูดคุยกับแพทย์ผู้ผ่าตัดได้ตรงจุด และประเมินผลลัพธ์ที่ต้องการได้ง่ายขึ้น 

• ช่วยในการเลือกเทคนิคการแต่งหน้า

         รู้โครงหน้าของตัวเอง ช่วยให้รู้จุดเด่น และจุดด้อยของใบหน้า ทำให้รู้ว่าบริเวณใดบนใบหน้าที่ต้องแต่งเพื่อเพิ่ม หรือบริเวณใดต้องแต่งเพื่อกลบ เช่น การใช้บรอนเซอร์แรเงาบริเวณสันกราม ช่วยเก็บกรอบหน้าให้บริเวณคางดูเล็กลง ทำให้หน้าดูเรียวขึ้น เป็นต้น

• ช่วยในการเลือกเครื่องประดับต่าง ๆ

         การเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับโครงหน้า ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับใบหน้า ทั้งรูปร่าง ขนาด สีสันของเครื่องประดับ สามารถสร้างภาพลักษณ์ดีๆ ให้กับผู้สวมใส่ได้ โดยเฉพาะถ้าหากมีความรู้พื้นฐานเรื่องโครงหน้า จะยิ่งช่วยให้การเลือกเครื่องประดับง่าย และเลือกได้เข้ากับตัวเองมากขึ้น เช่น คนที่มีโครงหน้าทรงสี่เหลี่ยม ที่สวมต่างหูทรงกลม หรือรูปไข่ จะช่วยเพิ่มความอ่อนโยนให้กับใบหน้า แต่กลับกันหากเลือกสวมต่างหูทรงสี่เหลี่ยม ก็จะทำให้ใบหน้าดูมีความแข็งมากขึ้น เป็นต้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้สวมใส่เป็นหลัก  

• ช่วยเลือกแว่นตา

         แว่นตามีหลากหลายรูปทรง มากพอๆ กับรูปหน้าต่างๆ ที่มีความแตกต่างกัน การเลือกแว่นที่เข้ากับโครงหน้า ช่วยปรับลุคให้ดูดี เพิ่มความมั่นใจ และยังสามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องประดับที่ดีได้เช่นกัน ดังนั้นการรู้โครงหน้าตัวเอง จะช่วยให้ผู้ที่มีความจำเป็นต้องใส่แว่น หรือใส่แว่นเป็นเครื่องประดับ สามารถเลือกแว่นตาที่เหมาะสมกับโครงหน้าได้ง่ายขึ้น 

          จะเห็นได้ว่าการสำรวจโครงหน้าตัวเอง ทำได้ไม่ยากเลย เพราะโดยพื้นฐานรูปแบบโครงหน้า แบ่งออกได้เพียง 7 ลักษณะ และมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งการเข้าใจโครงหน้าพื้นฐานของตัวเองนั้น ทำให้รู้ข้อดีและข้อด้อยของใบหน้า สามารถต่อยอดความงามได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้า การเลือกแว่นตา การเลือกทรงคิ้ว การศัลยกรรม ปรับรูปหน้า ปรับลุค เพิ่มความโดดเด่น และยังช่วยเพิ่มโหงวเฮ้งให้กับใบหน้าได้อีกด้วย