หมอรวงข้าวผู้อยู่เบื้องหลังความงามรอบดวงตาคู่สวยของ Lovely Eye and Skin Clinic
คุณหมอรวงข้าวผู้อยู่เบื้องหลังความงามรอบดวงตาคู่สวยกว่าหมื่นคู่ของ Lovely Eye and Skin Clinic จะมาพูดคุยเปิดเผย เรื่องราวและและประสบการณ์ การผ่าตัดทำศัลยกรรมความงามรอบดวงตาและเทคนิคการทำตาสองชั้นเปิดหัวตา เคล็ดลับพิเศษที่ไม่เหมือนใครวันนี้เราจะมาพูดคุยทำความรู้จักกับคุณหมอรวงข้าวกันค่ะ
คุยกับคุณหมอรวงข้าว
หลายๆ คนที่เคยคุยกับคุณหมอรวงข้าว หรือเพิ่งรู้จัก หรือเคยเข้ามาพบปะ พูดคุยปรึกษากับคุณหมอ ก็มักจะเกิดความสงสัยโดยตั้ง 3 คำถามยอดฮิตว่า คุณหมออายุเท่าไหร่แล้วคะ? คุณหมอเป็นหมอตาแล้ว ทำไมมาทำศัลยกรรมความงาม? และตาของคุณหมอก็ทำศัลยกรรมด้วยหรือเปล่าคะ? ทำที่ไหน ทำไมดูเป็นธรรมชาติมาก สวยมาก ทำแบบไหน หนูจะเอาตาอย่างหมอค่ะ
ซึ่งการที่กว่าจะเรียนจบหมอ และใช้ทุนเรียนต่อเพื่อจบเฉพาะทาง จะมีอายุไม่น้อยกว่า 30 ปีค่ะ แต่ที่ส่วนใหญ่ยังดูเด็ก เพราะคงเรียนเยอะเรียนนาน จึงทำให้ชินกับการเป็นเด็กมากกว่า หมอรวงข้าวเรียนจบแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปกติเรียนจบหมอใช้เวลา 6 ปี หลังจากนั้นทำงานเป็นแพทย์ใช้ทุนพร้อมกับการเทรนนิ่งเพื่อเป็นจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ อีก 5 ปี หลังจากนั้นจึงออกมาทำงานเป็นจักษุแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน โดยงานหลักของหมอตา ไม่ใช่วัดสายตาประกอบแว่นนะคะ แต่เป็นการรักษาโรคทางตาซึ่งมีมากมาย โรคหลักที่ต้องผ่าตัด
รักษาก็คือ ต้อกระจกด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์สลายต้อ ลอกต้อเนื้อ ซึ่งเป็นงานที่ละเอียด ต้องมองด้วยกล้องผ่าตัด ซึ่งเป็นเหตุผลที่หมอเลือกเรียนเป็นหมอตาเพราะชอบทำงานที่ต้องใช้ความละเอียด ประณีตอยู่แล้ว และผลของการรักษาโรคทำให้คนที่ตามัวกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ ส่วนโรคทางตาอื่นๆ ก็มีรองลงไป รวมถึงการรักษาโรคหนังตาตกจากกล้ามเนื้อดึงหนังตา ทำงานผิดปกติโดยกำเนิด หรือตามอายุ หนังตาหย่อนมารบกวนการมองเห็น หนังตาม้วนเข้าขนตาทิ่มตา ซึ่งมักจะทำในคนที่มีปัญหาจริงๆ ส่วนเรื่องทำแล้วดูสวยขึ้นอ่อนวัยขึ้นนั้นถือเป็นผลลัพธ์ของแถมที่ได้ตามมาค่ะ
ระหว่างการเรียนหมอมีความสนใจเรื่องการผ่าตัดเปลือกตามากเป็นพิเศษ เพราะได้รับการถ่ายทอดวิชาการทำตาสองชั้นจากคุณหมอท่านหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์ญาติผู้ใหญ่ของหมอ และยังเป็นผู้ที่ทำตาสองชั้นให้ หมอรวงข้าวเมื่อปี 2544 ก่อนจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยจึงถือว่าเคยเป็นคนที่ผ่านการทำตาจากอาหมวย ตาชั้นเดียวมาเป็นตาสองชั้น ซึ่งเป็นประสบการณ์ตรงของหมอเองค่ะ จึงทราบความรู้สึกเป็นอย่างดี แต่ตอนนั้น หมอไม่รู้สึกกลัวเลยนะคะ คงเป็นเพราะเห็นการผ่าตัดทำตาสองชั้นมาตั้งแต่เล็ก นั่งดูหน้าตาเฉย ตอนเด็กก็คงอยากเป็นหมอด้วยเลยไม่กลัวเลือด เลยสนใจนั่งสังเกตการณ์ เห็นคุณหมอดึงๆ ตัดๆ อย่างกับทำงานฝีมือ ตอนนั้นที่จะทำตาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำออกมาจะเป็นยังไง
เพราะสมัยนั้นไม่มีพวกรีวิวพันทิป ดั้งโด่งเหมือนสมัยนี้ คุณแม่บอกทำแล้วจะสวยขึ้นก็เลยเกิดความอยากทำ เพราะตอนเด็กรู้สึกว่าตัวเองไม่สวยเลย ลองเอาไม้จิ้มฟันมาแตะให้เป็นสองชั้นดูกระจกก็รู้สึกว่าดูดีขึ้นเหมือนกัน สมาชิกครอบครัวของหมอคนอื่นที่ตาชั้นเดียวเพราะเป็นตระกูลคนจีน คุณหมอท่านนี้ก็ทำให้เกือบหมดทุกคน จนถึงปัจจุบัน ไม่มีใครที่ไม่เอ่ยปากชมว่าตาของคุณหมอทำออกมาสวย ด้วยเหตุเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หมอแปลกใจ สงสัยอยากรู้ว่ามีเทคนิคอะไรถึงทำตาสองชั้นออกมาได้อย่างนี้ เพราะเท่าที่เรียนในตำราก็ไม่ได้บอกทั้งหมดและทำออกมาก็ไม่เหมือนตาของเราเอง อาจารย์หมอท่านนี้เริ่มทำตาสองชั้นให้คนไข้ที่โรงพยาบาลรามาตั้งแต่ปี 2513 หลังจากที่ช่วยอาจารย์หมอ ที่นั่นทำเพียง 2 ราย หลังจากนั้นก็ได้ไปศึกษาการทำตาสองชั้นที่ประเทศญี่ปุ่น (สมัยนั้นญี่ปุ่นดังกว่าเกาหลี) และพัฒนาฝีมือและทำทำตาสองชั้นที่ดูเป็นธรรมชาติและสวยงามมาก มาตลอด 43 ปี จนเกษียณ ทำตาสองชั้นมาหลายหมื่นราย ควบคู่กับการทำงานเป็น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดด้วย แต่ท่านไม่เคยถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ใครไม่เคยมีการโฆษณา แต่อาศัยการบอกต่อปากต่อปาก และ ผลงานล้วนๆ ท่านเห็นว่าหมอรวงข้าวซึ่งตามลำดับญาติ นับเป็นน้องสาวสนใจ และอยากให้มีผู้สืบทอดทำต่อได้ เพราะเทคนิคที่พัฒนามาไม่ได้สอนใครไว้ อาศัยประสบการณ์ และฝีมือจริงๆ กว่าจะมีเทคนิคการทำที่พิเศษและเป็นธรรมชาติ ท่านย้ำเสมอว่า “ต้องทำตาด้วยใจรักจริงๆ แล้วจะออกมาดีทุกราย”
นอกจากจะอาศัยหลักการที่ได้รับการถ่ายทอดมาแล้ว เมื่อกระแสในยุคปัจจุบัน ศัลยกรรมเกาหลีกำลังมาแรง จึงอดไม่ได้ที่จะเดินทางไปศึกษาให้หมอเกาหลีตัวเป็นๆ สอนทำกับคนไข้จริงที่เกาหลีแบบตัวต่อตัว อยากรู้ว่าที่เขาทำแล้วออกมาสวยนั้นเขาทำกันยังไง ก็ต้องยอมรับว่าเขาทำเคสเป็นจำนวนมากและพยายามพัฒนาเทคนิคต่างๆ เพื่อให้สามารถทำได้เร็ว สวยงาม และหายเร็ว เมื่อทราบแล้วก็นำมาปรับใช้กับการผ่าตัดของหมอเอง ทุกวันนี้หมอมีความตั้งใจที่จะทำให้ตาที่ดูไม่สวย ให้ดูสวยขึ้น เอาใจใส่ทุกคน อยากให้คนที่มาทำตามีความสุขกลับไป แต่บางครั้งการคาดหวังมากเกินไปเราก็เครียดเอง เห็นคนที่มาปรึกษาเรื่องแก้ไขตาที่ทำมาจากที่อื่นแล้ว ก็อยากช่วยให้เขาดีขึ้น แต่เรื่องการทำตามีหลายๆ อย่างที่อาจจะต้องเผื่อใจไว้บ้าง เนื้อเยื่อหนังตาเรา ไม่ใช้กระดาษ เนื้อเรามีทั้งเส้นเลือด เส้นประสาท ทางเดินน้ำเหลือง มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายๆ อย่างที่นอกเหนือจากเทคนิคฝีมือการผ่าตัดของหมอ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักว่าจะทำให้ทำออกมาแล้วจะสวยหรือไม่ ทั้งการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ปัจจัยก่อนผ่าตัด เช่น เนื้อเยื่อพังผืดจากการทำครั้งก่อน การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อดึงหนังตาจากการผ่าตัดมาหลายครั้ง ลักษณะรูปตาเดิม ตาที่ไม่เท่ากันอยู่เดิม ลักษณะคิ้วตก คิ้วยก รวมถึงความคาดหวังที่เกินความเป็นจริง เหล่านี้ล้วนมีผลต่อผลลัพธ์ของการผ่าตัดทำตาสองชั้นหรือปรับชั้นตาให้สวยงามทั้งสิ้น การผ่าตัดซ้ำเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับสำหรับการศัลยกรรมความงามทุกชนิดและสิ่งที่นอกเหนือการควบคุมอีกอย่างก็คือ ดวงนะคะ ลองคิดดูสิว่า คนเราเกิดมายังสวยไม่เท่ากัน การผ่าตัดรักษาโรคทุกอย่างยังมีที่ผ่าแล้วดีขึ้น เท่าเดิม หรือไม่หายก็มี จริงไหมคะ
สุดท้ายนี้ สำหรับคนที่ไปทำตาสองชั้นมาใหม่จากที่ไหนก็ตาม หรือทำกับหมอเอง ยังไม่ควรวิตกกังวลกับผลการผ่าตัด หรือขนาดชั้นตา หรือเปรียบเทียบขนาดตาสองข้าง จนกว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง อย่างน้อยก็ 3-6 เดือน แล้วแต่บางคน หายเร็วหายช้าไม่เท่ากัน วิตกกังวลจะเสียสุขภาพนะคะ นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจว่าโครงสร้างทางกายวิภาคของเบ้าตาและรูปร่างของตาแต่ละคนไม่เหมือนกัน และปัญหาเดิมที่มีก็ไม่เหมือนกัน จึงอย่าเปรียบเทียบว่าทำไมตาของเราไม่เหมือนคนนั้น ไม่เหมือนคนนี้ ขอให้เข้าใจและมีความสุขกับสิ่งที่ตนเองมีและได้รับมากที่สุด
“ หมอเอาใจใส่ทุกคน เพราะอยากให้ทุกคนที่มาทำตา มีความสุขกลับไป ”
พญ.คัมภีราภรณ์ สิริภคพันธ์
( คุณหมอรวงข้าว )
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
The result may vary depending on each person.
ผลลัพธ์การผ่าตัด แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล