fbpx รวบรวมคำถามหลังไลฟ์ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง โดยคุณหมอรวงข้าว | ทำตาสองชั้น เปิดหัวตา ถุงใต้ตา โดยหมอรวงข้าว และทีมจักษุศัลยแพทย์ ออกแบบดวงตา วิเคราะห์ปัญหาตรงจุด

รวบรวมคำถามหลังไลฟ์ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง โดยคุณหมอรวงข้าว

Q : เคสกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง อนาคตจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ไหม

คุณหมอรวงข้าว : ตามปกติแล้ว กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้จู่ๆ ตาตกในทันทีทันใด แต่กรณีที่ตาตกในทันทีทันใด ควรปรึกษาแพทย์ทางด้านระบบประสาทก่อน แต่ถ้าเกิดอาการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนใหญ่จะเกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แต่จะค่อยๆ เป็นมากขึ้น ในตอนที่อายุมากขึ้น กล้ามเนื้อจะล้าลงๆ เรื่อยๆ เพราะเราใช้งานทุกวัน โดยเฉพาะสมัยนี้นอกจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแล้ว ยังมีตาล้าด้วย ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นถาวร บางคนที่ใช้สายตาเยอะ ก็ทำให้ตาปรือลงเป็นครั้งคราวได้เหมือนกัน 

 

Q : กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำตาสองชั้นอย่างเดียว แก้ได้ไหม

คุณหมอรวงข้าว : ขึ้นอยู่กับระดับความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ ถ้าหากอ่อนแรงไม่มาก ก็ยังสามารถทำตาสองชั้นปกติ โดยไม่ต้องดึงกล้ามเนื้อตาได้ แต่ถ้าอ่อนแรงมาก หรือสังเกตเห็นตาทั้งสองข้างไม่เท่ากันอย่างชัดเจน หมอจะไม่แนะนำให้ทำตาสองชั้นเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าทำอย่างเดียว โดยที่ไม่แก้ปัญหากล้ามเนื้อตา จะทำให้ชั้นตาดูไม่เท่ากัน ชั้นตาจะค่อยๆ คลายตัวออกในอนาคต อาจจะอยู่ได้แค่ไม่ถึงปี 

 

Q : ตาล้ากับกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แยกกันอย่างไร

คุณหมอรวงข้าว : ตาล้า ไม่ได้เป็นตลอดเวลา อาจจะมีอาการแค่บางช่วงที่ใช้สายตาหนัก พักผ่อนน้อยหรือช่วงกลางคืน แต่ถ้าตาอ่อนแรง จะเป็นตลอด ซึ่งอาการอาจจะไม่ได้คงที่ตลอด บางช่วงอาจเป็นมาก แต่ถ้าพักผ่อนมากขึ้นก็อาจจะเป็นน้อยลง ทั้งนี้ต้องเข้ามาให้หมอประเมิน

 

Q : การดึงกล้ามเนื้อตา แก้อาการอะไรได้บ้าง

คุณหมอรวงข้าว : หลักๆ แก้ปัญหาตาไม่เท่ากัน ตาปรือ ตาง่วงนอนค่ะ

 

Q : ถ้าแก้แล้ว จะหายถาวร ไม่กลับมาเป็นอีกใช่ไหม

คุณหมอรวงข้าว : ถ้าผ่าตัดกล้ามเนื้อตาแล้ว จะไม่กลับมาเป็นอีก แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูแลตัวเองด้วย ถ้ากลับไปขยี้ตาแรงๆ ก็อาจกลับมาเป็นใหม่ได้อีก

 

Q : ตาตกนิดๆ จะดูอย่างไร ว่าเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือเปล่า

คุณหมอรวงข้าว : ถ้าตาสองข้างดูไม่เท่ากัน ตาดูปรือๆ ง่วงๆ เหมือนลืมตาไม่ค่อยสุด ติดอาการเลิกคิ้วค้าง ทำอะไรก็ต้องพยายามเบิ่งตา ชอบใช้กล้ามเนื้อตรงหน้าผากช่วยลืมตา มีประวัติใส่คอนแทคเลนส์มานาน หรือเป็นภูมิแพ้แล้วชอบขยี้ตาบ่อยๆ ทั้งหมดล้วนเป็นจุดสังเกตของอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แต่ถ้าให้แน่ใจ ควรเข้ามาให้หมอประเมินการทำงานของกล้ามเนื้อตาด้วย ซึ่งหมอจะมีวิธีวัดระดับการทำงานของกล้ามเนื้อตา บางคนถ้าไม่ได้เห็นชัดเจนถึงขนาดดูปุ๊บแล้วรู้เลย เพราะอาจจะใช้กล้ามเนื้อหน้าผากในการช่วยลืมตาขึ้น มันก็จะช่วยอำพรางได้ เวลาตรวจ หมอก็จะดูให้ละเอียดว่ามีปัญหากล้ามเนื้อตาร่วมด้วยหรือเปล่า

 

Q : เป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง มีข้อเสียอย่างไร จะส่งผลกระทบอย่างไร 

คุณหมอรวงข้าว : ถ้าเป็นไม่มาก แค่กล้ามเนื้อตาล้าชั่วครั้งชั่วคราว ก็อาจจะทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยสบายตา ใช้สายตานานๆ แล้วรู้สึกว่ามันเมื่อยล้าตา ไม่ค่อยอยากลืมตา อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันบ้าง แต่ถ้าเป็นมากขึ้นจนถึงขั้นปิดดวงตาดำ ก็จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น อย่างเช่น คนไข้ที่ต้องใช้สายตาทำงาน คนไข้ที่ต้องขับรถ ทำให้เราไม่ค่อยอยากใช้สายตา รู้สึกง่วงๆ ไม่ค่อยอยากลืมตา ส่วนในเรื่องความสวยงาม ก็จะทำให้ตาดูไม่เท่ากัน ดูตาปรือ ชั้นตาไม่ชัดเจน เบ้าตาลึก

 

Q : ถ้าเราผ่าตัดกล้ามเนื้อตา จะต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง

คุณหมอรวงข้าว : เบื้องต้นแผลผ่าตัดสำหรับทำตาสองชั้น กับแผลผ่าตัดทำตาสองชั้นบวกกล้ามเนื้อตาจะเป็นแผลลักษณะเดียวกันเลยค่ะ แต่ต่างกันตรงขั้นตอนการทำข้างในเปลือกตาเท่านั้น ซึ่งการทำตาสองชั้น พร้อมดึงกล้ามเนื้อตาอาจใช้เวลาในการผ่าตัดมากกว่า แต่การดูแลก็เหมือนกับการทำตาสองชั้น คือช่วงแรกๆ ควรประคบเย็นบ่อยๆ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เลือดออกซ้ำ พยายามไม่ขยี้ตา และอาจงดการใส่คอนแทคเลนส์ไปสักระยะหนึ่งก่อนในช่วงแรกๆ นอกจากนี้การผ่าตัดดึงกล้ามเนื้อตา จะทำให้ตาของเราโตขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ได้ร้ายแรง ก็คือคนไข้มักจะมีอาการตาแห้งตามมา สังเกตจะมีอาการแสบตา น้ำตาไหล สู้แสงไม่ค่อยได้ ระคายเคืองตา เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆ หมอจะแนะนำให้หยอดน้ำตาเทียม แล้วก็พักการใช้สายตา ทำงานปกติได้ แต่อาจเล่นมือถือให้น้อยลง และหลีกเลี่ยงการโดนลม 

 

Q : โรคอะไรบ้างที่ไม่แนะนำให้ทำตา

คุณหมอรวงข้าว : ในการผ่าตัด โดยปกติ ถ้าคนไข้มีความดันสูงที่ควบคุมไม่ได้ หรือเป็นเบาหวานที่ค่าระดับน้ำตาลในเลือดเกิน 130 หมอก็จะไม่แนะนำให้ผ่าตัด แต่ว่าโรคประจำตัวของแต่ละคนก็อาจจะมีมากกว่านั้น เช่น เป็นโรคเกี่ยวกับเส้นเลือด หลอดเลือด สมอง หัวใจ บางทีต้องทานยาละลายลิ่มเลือด ถ้ายังต้องทานอยู่ก็จะทำไม่ได้ แต่ว่าถ้าโรคสงบดีแล้ว และคุณหมอประจำตัวบอกว่าหยุดยาได้ก่อนผ่าตัด ถ้ากรณีนี้ก็จะสามารถผ่าตัดทำตาได้

 

Q : ขยี้ตาบ่อยๆ จะเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงไหม

คุณหมอรวงข้าว : เป็นสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงค่ะ จากการที่กล้ามเนื้อตายืดออก ถ้าไม่อยากให้เกิดอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คนไข้ไม่ควรขยี้ตา บางคนไม่ได้คันตา แต่มันจะติดการขยี้ตา อันนี้ต้องเลิก ไม่งั้นจะเกิดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในอนาคตได้ และอีกอย่างหนึ่งถ้าคนไข้เป็นภูมิแพ้ ก็ควรรักษาให้หาย ไม่อย่างนั้นจะเกิดการขยี้ตาและเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตามมาได้ค่ะ

 

Q : ถ้าเป็นภูมิแพ้คันตา เอามือกดๆ ตรงหัวตาแทนได้ไหม

คุณหมอรวงข้าว : โดยส่วนใหญ่ลูกค้าที่เป็นภูมิแพ้แล้วคันตา ถ้าคันตรงหัวตา เราอาจจะใช้คัตตอนบัตแทน จะสะอาดกว่าใช้มือ

 

Q : ตาไม่เท่ากัน เป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงไหม หรือเป็นปัญหาตาอื่นๆ

อาจเกิดจากโครงสร้างตา เล็กข้าง ใหญ่ข้างที่เป็นมาแต่กำเนิด เวลาทำตาสองชั้นก็จะทำให้ตาทั้งสองดูมีขนาดใกล้เคียงกันมากขึ้น หรืออาจไม่เท่ากันจากการที่หนังตาตกข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้างหนึ่ง อันนี้ทำตาสองชั้นอย่างเดียวก็แก้ได้ หรือคนไข้เป็นหนังตาตกมานานๆ แล้วติดอาการเลิกคิ้วสองข้างไม่เท่ากัน อันนี้ก็ทำให้ตาไม่เท่ากันได้เหมือนกัน หมออาจฉีดโบท็อกซ์ให้คิ้วไม่เลิกขึ้น

 

Q : อยากรู้ว่าถ้าทำตามาแล้ว เช็ดเครื่องสำอางที่เปลือกตาแรงๆ จะเป็นสาเหตุให้ชั้นตาหลุดไหม

คุณหมอรวงข้าว : ถ้าถูเปลือกตาแรงๆ ไม่ว่าจะทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคเย็บจุดไม่กรีดตา หรือทำตาสองชั้นด้วยการกรีดตาแล้วเย็บชั้นตา การถูตาแรงๆ อาจทำให้ชั้นตาของเราคลายตัวออกจากกันได้ รวมถึงเกิดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ เพราะเกิดการยืดตัวของกล้ามเนื้อชั้นในด้วย

 

Q : ยิ่งอายุเยอะ หนังตายิ่งตก ควรทำอย่างไร

คุณหมอรวงข้าว : ถ้าตกในระดับไม่มาก ควรดูแลตัวเอง อย่างไม่ขยี้ตาเยอะๆ ไม่เช็ดเครื่องสำอางแรงๆ หรือทำการกระชับผิวรอบดวงตาโดยไม่ผ่าตัด สามารถใช้ Thermage Eye Reborn แต่ว่าถ้าตกมาก จนถึงขั้นรู้สึกหนักตา สามารถผ่าตัดเอาหนังตาส่วนเกินออกได้