Q : ภูมิแพ้ตากำเริบ มีอาการอย่างไรบ้าง
คุณหมออ้อย : คันตาเป็นอาการเด่นค่ะ มีอาการบวม แดงร่วมด้วย หรืออาจมีอาการแสบตา ตาแฉะ น้ำตาไหล ระคายเคือง ตาไวต่อแสง บางครั้งคันมากจนต้องขยี้ตา ทำให้เปลือกตาบวม หรือทำให้เกิดรอยคล้ำรอบดวงตาได้
Q : ฝุ่น PM2.5 ส่งผลต่อดวงตาหรือไม่
คุณหมออ้อย : หากฝุ่น PM2.5 เข้าไปในดวงตา อาจทำให้เกิดเยื่อบุตาอักเสบได้
Q : ใส่แว่นกันแสงจากคอมพิวเตอร์แล้ว แต่ยังคงปวดตาอยู่ดี ต้องแก้ไขอย่างไร
คุณหมออ้อย : แสงจากคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่ตัวกระตุ้นเดียว อาการปวดตาอาจมาจากการที่เราใช้สายตาต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อตาที่ช่วยเพ่งเกิดอาการล้าได้
Q : เวลาเกิดอาการตาล้า ให้หันไปมองพื้นที่ที่มีสีเขียว ช่วยได้จริงหรือ
คุณหมออ้อย : การมองไปไกลๆ หรือมองพื้นสีเขียว เป็นการช่วยให้คนไข้ไม่ต้องโฟกัส ทำให้ไม่ต้องใช้กล้ามเนื้อช่วยเพ่งเยอะ กล้ามเนื้อตาจึงผ่อนคลายลง ทำให้อาการตาล้าลดลงได้ค่ะ
Q : นอกจากรับประทานยาแก้แพ้แล้ว เรายังมีวิธีการรักษาภูมิแพ้ขึ้นตาด้วยวิธีการอื่นๆ อีกหรือไม่
คุณหมออ้อย : สำหรับดวงตา นอกจากยารับประทานแล้ว การใช้ยาหยอดตา ช่วยลดอาการอักเสบ ลดอาการคัน รวมถึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา จึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการลดการอักเสบของเยื่อบุตาค่ะ การประคบเย็นเพื่อลดอาการคัน ใช้น้ำเกลือสเตอร์ไรด์ล้างดวงตา เพื่อชะล้างสารก่อภูมิแพ้ ก็ช่วยได้ดีระดับหนึ่ง
Q : ตาแห้งมีอาการอย่างไร
คุณหมออ้อย : ตาแห้งส่วนใหญ่ จะมีอาการไม่สบายตา แสบตา ฝืดในตา ระคายเคือง บางทีอาจมองชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ต้องกะพริบตาบ่อยๆ
Q : สาเหตุของอาการตาแห้ง
คุณหมออ้อย : อาจต้องเช็คก่อนว่าเป็นโรคตาแห้ง หรือเป็นเพียงภาวะตาแห้ง ถ้าเป็นโรคตาแห้งอาจเกิดจากความผิดปกติของต่อมสร้างน้ำตา ทำให้เราสร้างน้ำตาออกมาไม่ได้ ซึ่งอาจเกิดจากตัวต่อมสร้างน้ำตาเอง หรือเกิดจากสิ่งอื่นที่มีผลให้ต่อมสร้างน้ำตาน้อยลง เช่น ยาบางประเภท การแพ้ยาที่ส่งผลต่อการสร้างน้ำตา แต่หากเป็นภาวะตาแห้ง อาจเกิดจากปัจจัยกระตุ้นต่างๆ โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม เช่น การนั่งอยู่ในห้องเย็นๆ ที่มีอากาศแห้ง การมีพัดลมที่เป่าเข้าดวงตา การใช้สายตาต่อเนื่องนานๆ การใช้ยาบางประเภท เช่น ยาต้านซึมเศร้า ยาลดน้ำมูก ก็ลดการสร้างน้ำตาลง หรือบางคนที่มีโรคขอบเปลือกตาอักเสบ ทำให้น้ำตาระเหยผิดปกติ ก็ทำให้เกิดอาการตาแห้งได้
Q : มีอาการตาแห้ง และภูมิแพ้ขึ้นตา ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
คุณหมออ้อย : สำหรับภูมิแพ้ดวงตา ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ที่พบบ่อยๆ เช่น ไรฝุ่นตามผ้าปูที่นอน การเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนบ่อยๆ ก็ช่วยได้ ไม่ควรปูพรมกักฝุ่นในบ้าน เลี่ยงการรับประทานอาหารหรือสูดดมบริเวณที่มีฝุ่นเยอะๆ ไม่ขยี้ตา หมั่นประคบเย็น สวมแว่นกันแดด ก็จะช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้ และถ้ามีอาการตาแห้ง การใช้น้ำตาเทียมก็จะช่วยหล่อลื่น เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตาได้ดีค่ะ
Q : คนมีอาการตาแห้ง หรือภูมิแพ้ขึ้นตาสามารถทำตาสองชั้นได้หรือไม่
คุณหมออ้อย : ทำได้ค่ะ แต่ถ้ามีอาการมาก อาจต้องรักษาให้ดีขึ้นก่อน แต่ถ้ามีอาการเล็กน้อย สามารถเข้ามาให้หมอตรวจประเมินก่อนได้ค่ะ ในส่วนของอาการตาแห้ง หลังทำตาสองชั้นในระยะแรก อาจทำให้ตาแห้งมากขึ้นได้ค่ะ
Q : ภูมิแพ้ขึ้นตา สามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่
คุณหมออ้อย : หากเป็นโรคภูมิแพ้อาจไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยง ไม่สัมผัสสารก่อภูมิแพ้ ก็จะไม่ทำให้อาการกำเริบค่ะ
Q : ชอบคันตาเวลาฝนตก และเวลาก่อนนอน จึงสงสัยว่าเหล่านี้เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ดวงตาหรือไม่
คุณหมออ้อย : มีความเป็นไปได้นะคะ อย่างอาการคันช่วงก่อนนอน อาจเป็นเพราะผ้าปูที่นอนหรือปลอกหมอนอาจมีไรฝุ่น ซึ่งเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ที่ดวงตาได้ค่ะ
Q : คอนแทคเลนส์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระตุ้นให้มีอาการตาแห้งหรือไม่
คุณหมออ้อย : คอนแทคเลนส์ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการตาแห้ง จากการที่ตัวเลนส์เมื่อครอบกระจกตา จะดูดน้ำออกจากผิวกระจกตามาอยู่ในตัวมัน ก็จะทำให้ตาแห้งได้ นอกจากนั้นคอนแทคเลนส์เองก็ยังทำให้เกิดภาวะภูมิแพ้เยื่อบุตาได้ เพราะคอนแทคเลนส์เป็นสิ่งแปลกปลอม เมื่อเรากระพริบตา ก็จะเกิดการเสียดสี ทำให้เกิดเม็ดบริเวณเยื่อบุตาได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะใช้คอนแทคเลนส์ ก็ควรใช้ให้ถูกวิธี ล้างมือให้สะอาด เช็ดมือให้แห้งก่อนใส่ ใส่คอนแทนเลนส์ก่อนแต่งหน้า ไม่ใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่มีอย. หรือหมดอายุ และที่สำคัญไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์นอน เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่กระจกตาได้ค่ะ
Q : หลังทำเลสิก จะทำให้ตาแห้งหรือเปล่า
คุณหมออ้อย : เป็นไปได้ค่ะ เพราะการทำเลสิกจะเกิดการรบกวนกระจกตา และรบกวนเส้นประสาทที่เลี้ยงผิวกระจกตา คนที่ทำเลสิกจึงมีโอกาสตาแห้งได้มากขึ้น แต่ว่าจะเป็นแค่เพียงชั่วคราว และจะดีขึ้นได้เอง
Q : ภูมิแพ้ขึ้นตา กับ ตาแดง แยกอาการอย่างไร
คุณหมออ้อย : ทั้งสองโรคมีอาการก้ำกึ่งกัน เพราะส่วนใหญ่ทำให้เกิดอาการเยื่อบุตาอักเสบ แต่โรคตาแดงมักจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัส ซึ่งจะทำให้เกิดอาการไม่สบายตาอย่างมาก น้ำตาไหล และมีขี้ตาลักษณะสีเหลือง แต่จะไม่ค่อยรู้สึกคัน แต่ถ้าเป็นภูมิแพ้ ก็จะตาแดงได้บ้าง แต่ขี้ตาจะมีสีขาวไม่เหมือนลักษณะอาการติดเชื้อ และอาการคันจะเด่นมากค่ะ
