fbpx โรคภูมิแพ้ขึ้นตา คนที่แพ้ต้องดูแลตัวเอง กับ 9 วิธีป้องกัน

9 วิธีดูแลตัวเอง ป้องกันโรคภูมิแพ้ขึ้นตา

โรคภูมิแพ้ขึ้นตา

             ภูมิแพ้ เป็นอาการที่ร่างกายเกิดปฏิกิริยาไวผิดปกติต่อสิ่งแปลกปลอม หรือเรียกว่าสารก่อภูมิแพ้ เช่น ขนสัตว์ ไรฝุ่น แมลงสาบ เชื้อรา สารเคมี อาหาร เป็นต้น ที่เข้าสู่ร่างกาย สำหรับภูมิแพ้ตา เป็นอาการภูมิแพ้ที่พบได้บ่อย เมื่อเกิดอาการจะทำให้รู้สึกคัน ระคายเคืองตา หรือขอบตา จนต้องขยี้ตา แสบตา ตาขาวเป็นสีแดงเรื่อ เปลือกตาบวม ตาแฉะ มีน้ำตาไหล ตาไวต่อการรับแสง บางเคสจะมีสีผิวรอบดวงตาที่คล้ำผิดปกติ ซึ่งโรคนี้อาจไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้สามารถดูแลรักษาตัวเอง ไม่ให้ภูมิแพ้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้

 

สาเหตุที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ตา

  • พันธุกรรม

              โรคภูมิแพ้สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ถ้ามีพ่อแม่ หรือคนในครอบครัวเป็นภูมิแพ้ เด็กที่เกิดมาจะมีแนวโน้มเป็นภูมิแพ้มากกว่าเด็กที่ไม่มีคนในครอบครัวเป็นภูมิแพ้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อม จะเป็นตัวกระตุ้นภูมิแพ้ในร่างกายให้กำเริบขึ้น

  • สิ่งแวดล้อม

             ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัส สูดดม หรือรับประทาน ล้วนกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ หรือทำให้อาการภูมิแพ้หนักขึ้นได้ เช่น การสัมผัสกับมลภาวะตามท้องถนน ทำงานอยู่ในห้องที่อากาศไม่ถ่ายเท แพ้ขนสุนัขหรือแมว แพ้กลิ่นบุหรี่ แพ้อาหารทะเล นม หรือโปรตีนบางชนิด เป็นต้น

  • อากาศ

             คนเป็นโรคภูมิแพ้ มีแนวโน้มที่จะตอบสนองไวกว่าปกติต่อสภาพอากาศ เช่น อากาศเย็น อากาศร้อน หรือตอนที่ฝนตก แต่บางครั้งอากาศอาจไม่ใช่สิ่งกระตุ้นโดยตรง แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในอากาศที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ เชื้อรา หรือเกสรดอกไม้ที่ลอยอยู่ในอากาศ เมื่อเกิดอาการแพ้ อาจทำให้รู้สึกระคายเคืองตา คันตายุบยิบจนต้องขยี้ตา แสบตา น้ำตาไหล เป็นต้น

  • คอนแทคเลนส์

             คนที่ใส่คอนแทคเลนส์ อาจมีอาการระคายเคืองจากคอนแทคเลนส์ หรืออาจทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ไม่ถูกวิธี หรือแพ้สารเคมีในน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ได้ ซึ่งการใช้คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน อาจกระตุ้นให้เกิดอาการเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ คนที่เป็นภูมิแพ้ตา จะรู้สึกไม่สบายตาเมื่อใส่คอนแทคเลนส์ จะรู้สึกคันตา น้ำตาไหล เปลือกตาบวมแดง เยื่อบุตาขาวบวมแดง พบตุ่มแดงเม็ดเล็กๆ จำนวนมากบริเวณเยื่อบุตา หากมีอาการหนักมาก อาจมีอาการแพ้แสง จนลืมตาไม่ขึ้น รู้สึกแสบตาและระคายเคืองตาตลอดเวลา

  • เครื่องสำอาง

             การใช้เครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตา เช่น อายแชโดว์ อายไลเนอร์ มาสคาร่า หรือแม้แต่ขนตาปลอมและกาวติดขนตา โดยเฉพาะถ้าหากใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือปนเปื้อนสารโลหะหนัก อย่างสารตะกั่ว หรือสารปรอท หรือการใช้เครื่องสำอางที่มีเชื้อโรคปลอมปน หากเครื่องสำอางหลุดเข้าไปในบริเวณดวงตา อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ตาอักเสบและภูมิแพ้ตาได้

 

ภูมิแพ้ตา นำไปสู่โรคใดได้บ้าง

  • เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้

          ภาวะเยื่อบุตาอักเสบที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจเกิดจากภูมิแพ้ หรือการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย อาการของโรคจะเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อที่บริเวณด้านในของเปลือกตาบน ล่าง หรือเยื่อบุตาขาว ทำให้เกิดอาการคันตา ตาแดง มีขี้ตา น้ำตาไหล ตาสู้แสงไม่ได้ เปลือกตาบวม เกิดอาการเจ็บหรือระคายเคืองตาเหมือนมีผงอยู่ในตา จุดสังเกตของโรคคือ ตาจะแดงมากบริเวณร่องตา และค่อยๆ จางลง ตรงบริเวณรอยต่อระหว่างตาขาวและตาดำ และเยื่อตาจะบวมหนากว่าปกติ

การดูแลรักษาเบื้องต้น :

  1. ไม่ควรขยี้ตา

  2. เลี่ยงการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ (กรณีเป็นเยื่อบุตาอักเสบจากเชื้อไว้รัส)

  3. หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีลม ฝุ่นละออง

  4. ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ

  5. หากเป็นรุนแรง หรือเป็นๆ หายๆ ควรรับการตรวจจากแพทย์

  • ตาแห้ง

          ภาวะตาแห้ง เกิดได้จากการที่มีปริมาณน้ำตาไปหล่อเลี้ยงดวงตาไม่เพียงพอ จะทำให้รู้สึกระคายเคืองตา แสบตา รู้สึกเหมือนมีฝุ่นอยู่ในตาตลอดเวลา น้ำตาไหล ตาพร่ามัว มีขี้ตาเป็นเมือก มีอาการปวดตาและปวดหัวร่วมด้วย

การดูแลรักษาเบื้องต้น :

  1. หลีกเลี่ยงการใส่คอนแทคเลนส์เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน

  2. ถ้าต้องใช้สายตานานๆ ควรพักสายตาทุก 30 - 60 นาที

  3. พยายามกระพริบตาบ่อยๆ

  4. หยอดน้ำตาเทียม เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา

  5. รับประทานอาหารบำรุงสายตาเป็นประจำ

 

โรคภูมิแพ้ขึ้นตา

วิธีการดูแลดวงตาและป้องกันโรคภูมิแพ้ขึ้นตา

  1. พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัส รับประทาน หรือสูดดม สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ที่ดวงตา เช่น ขนสัตว์ ไรฝุ่น แมลงสาบ สารเคมี อาหารที่แพ้ เป็นต้น

  2. หลีกเลี่ยงการปูพรมภายในบ้าน เพราะพรมถือเป็นวัสดุกักเก็บฝุ่น รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ชั้นดี

  3. เปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนบ่อยๆ เพื่อลดไรฝุ่น

  4. ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ต่อเนื่องเป็นเวลานานข้ามคืน

  5. ใช้น้ำตาเทียมช่วยเจือจางสารก่อภูมิแพ้ได้

  6. ไม่ขยี้ตา เพื่อป้องกันไม่ให้การอักเสบของดวงตารุนแรงขึ้น

  7. ประคบเย็น ช่วยลดอาการบวมบริเวณเปลือกตา

  8. แว่นกันลม ที่ปิดทั้งด้านหน้าและด้านข้าง จะช่วยป้องกันดวงตาจากสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในอากาศได้

  9. หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ