fbpx 5 สาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นโรคต้อลม ต้อเนื้อ

5 สาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นโรคต้อลม ต้อเนื้อ

ต้อลม ต้อเนื้อ (5).jpg

          เข้าสู่ช่วง Summer แล้ว หลายคนนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และกำลังแพลนวันพักร้อนกันยกใหญ่ หรือไม่ก็อาจจะกำลังนึกถึงอากาศร้อนๆ และแสงแดดอันเจิดจ้า พร้อมกับเตรียมหาครีมกันแดดตัวเด็ด ที่จะใช้ปกป้องผิวจากแสงแดดตลอดช่วงหน้าร้อนนี้ แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากผิวพรรณแล้ว ในสภาพอากาศร้อนๆ ยังมีโรคทางตาโรคหนึ่งชื่อว่า โรคต้อลม ต้อเนื้อ ที่มีความข้องเกี่ยวกับสภาพลมฟ้าอากาศ โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่มีแดดจัด ลมพัดแรงๆ โดยตรง เพื่อให้ทุกคนเตรียมตัวรับมือกับโรคนี้ได้ทัน เลิฟลี่อายจึงพาทุกคนมาทำความเข้าใจ ตั้งแต่สาเหตุที่ทำให้เกิดโรค ไปจนถึงสัญญาณของโรคต้อลม ต้อเนื้อ กัน

ต้อลม ต้อเนื้อ (4).jpg

         ต้อลม ภาษาอังกฤษ คือ Pinguecula มีลักษณะเป็นแผ่นเยื่อพังผืดหรือก้อนนูนภายในตาขาว ส่วนใหญ่อาการจะเกิดขึ้นในบริเวณหัวตามากกว่าหางตา จากไขมันและโปรตีนที่สะสมอยู่ในบริเวณเยื่อบุตาขาวหนาตัวขึ้น เนื่องมาจากการที่เซลล์เยื่อบุตาขาวมีการผลิตไขมันและโปรตีนมากกว่าปกติ หรือมีการเสื่อมสภาพ โดยสาเหตุหลักเกิดจากการที่ดวงตาสัมผัสกับลม ฝุ่นละอองในอากาศ รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และมลภาวะต่างๆ ในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ต้อลมที่เกิดขึ้นเฉพาะบริเวณตาขาว จะลุกลามและขยายขนาดจนล้ำเข้าสู่บริเวณตาดำ หรือที่เรียกว่า ต้อเนื้อ

         ต้อเนื้อ ภาษาอังกฤษ คือ Pterygium เป็นต้อลมที่มีการหนาตัวและขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนลุกลามเข้าสู่บริเวณตาดำ มีสีเหลืองปนแดงและมีเส้นเลือดอยู่โดยรอบ ต้อเนื้ออาจลุกลามต่อเนื่องจนเข้าสู่กลางดวงตา จนปิดรูม่านตา อาจทำให้ตามัวลงอย่างมาก ไปจนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้

         ต้อลม ต้อเนื้อ พบได้มากในประเทศเขตร้อน ที่มีภูมิประเทศแบบแห้งแล้งและมีฝุ่นลมมาก จึงพบผู้ป่วยโรคต้อลมต้อเนื้อได้ในประเทศไทยเป็นจำนวนไม่น้อย แต่ต้อลม ต้อเนื้อ เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ เพียงหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค

Table of Contents

  1. สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต้อลม
  2. สัญญาณเตือนโรคต้อลม ต้อเนื้อ

 

5 สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต้อลม

1. ลมตามธรรมชาติ

                   การทำอาชีพหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง มีโอกาสที่ดวงตาของเราจะปะทะกับลมตามธรรมชาติได้มาก หากดวงตาต้องสัมผัสกับลมเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลมในบริเวณเขตร้อน หรือพื้นที่แห้งแล้ง จะเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นต้อลม ส่วนลมจากพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศ มักไม่ส่งผลให้เกิดต้อลมเท่าใดนัก

2. แสงแดด

                   รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ในแสงแดด เป็นคลื่นแสงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่มีพลังงานสูง การรับรังสียูวีในปริมาณมาก นอกจากจะทำร้ายผิวพรรณแล้ว ยังทำร้ายดวงตาของเราด้วย เพราะเมื่อได้รับรังสียูวีเป็นประจำ จะกระตุ้นให้เกิดการเสื่อมของเยื่อบุตาได้เร็วขึ้น เสี่ยงเป็นต้อลมได้ง่าย 

สาเหตุจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ในแสงแดด การรับรังสียูวีในปริมาณมากเกินไป

3. ฝุ่น ฝุ่นพิษ PM2.5 ควันจากท่อไอเสีย

                   ฝุ่นในพื้นพื้นแห้งแล้ง ฝุ่นละอองในเมืองใหญ่ หรือแม้แต่ฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 หรือควันพิษจากท่อไอเสียตามท้องถนน ที่ปลิวเข้าสู่ดวงตาของเราเป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาที่ขี่มอเตอร์ไซค์ แล้วลมปะทะหน้าด้วยความเร็วสูง มีโอกาสที่ฝุ่นละออง มีโอกาสเข้าสู่ดวงตาของเราได้ง่ายขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดต้อลมได้ 

ใช้สายตาจ้องจอคอมพิวเตอร์ หรือจอโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานตลอดทั้งวัน จนมีอาการตาแห้ง

4. ตาแห้ง

                   ภาวะตาแห้ง พบมากในผู้สูงวัยและคนวัยทำงาน ที่ต้องใช้สายตาจ้องจอคอมพิวเตอร์ หรือจอโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานตลอดทั้งวัน เมื่อมีอาการตาแห้ง จะทำให้รู้สึกระคายเคืองตา ไม่สบายตา เหมือนกับมีฝุ่นหรือเม็ดทรายอยู่ในตาตลอดเวลา แสบตา น้ำตาไหล ซึ่งคนที่เป็นมีภาวะตาแห้ง มีความเสี่ยงต่อการเกิดต้อลมได้ง่ายกว่าคนปกติ  

5. อุณหภูมิความร้อน

                   ความร้อนจากแสงแดด ไอร้อนจากห้องซาวน่า หรือตู้อบสมุนไพร หรือแม้แต่จากเตาหุงต้ม หากได้รับความร้อนที่มากเกินไป หรือนานเกินไป ล้วนส่งผลกระทบต่อดวงตาได้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานหรืออยู่กลางแจ้ง เช่น นักกีฬากลางแจ้ง เกษตรกร พนักงานออกบูธกลางแจ้ง วิศวกร ผู้รับเหมาก่อสร้าง ฯลฯ หากดวงตาได้รับความร้อนเป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นต้อลมได้

 

สัญญาณเตือนโรคต้อลม ต้อเนื้อ

                   โดยปกติ ต้อลมจะไม่มีอาการให้เห็นได้ชัดเจน แต่สามารถเกิดการอักเสบได้ หากมีการสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นความเสี่ยงอยู่เป็นประจำ โดยไม่มีการป้องกันดวงตา 

  • เกิดเยื่อพังผืดบริเวณเยื่อบุตาขาว หากสังเกตภายในดวงตา จะมองเห็นก้อนสีเหลืองอ่อน หรือสีขาวที่มีความนูนเล็กน้อยอยู่บริเวณตาขาวใกล้กับตาดำ 
  • ตาแห้ง ระคายเคืองตา น้ำตาไหล 
  • รู้สึกรำคาญตา เหมือนมีบางอย่างอยู่ภายในตาตลอดเวลา ไม่สบายตา โดยเฉพาะเวลาที่ใส่คอนแทคเลนส์
  • มีอาการระคายเคืองต่อแสงแดด ลม ฝุ่นมากขึ้น หากโดนลมโกรกเข้าตา โดนแสงมากๆ มีฝุ่นละอองเข้าตา หรือแม้แต่การนอนดึก ดวงตาจะมีอาการแย่ลงอย่างเห็นได้ชัดและรู้สึกไม่สบายตา ดวงตาอาจมีลักษณะแดงเรื่อ จากการที่หลอดเลือดขยายมากขึ้น รวมถึงมีอาการแสบร้อน และน้ำตาไหลได้

สัญญาณเตือนโรคต้อลม ต้อเนื้อ

  • ตามัวลง มองเห็นภาพไม่ชัด ในกรณีที่เป็นต้อเนื้อนานเป็นปีๆ จนถึงขั้นเยื่อพังผืดลุกลามไปยังตาดำ ทำให้บดบังการมองเห็นได้ 

                   หากพบอาการผิดปกติกับดวงตาในข้างต้น ไม่ควรปล่อยปละละเลย แต่ควรรีบเข้าพบจักษุแพทย์ทันที เพื่อทำการตรวจหาแนวทางการรักษา และเพื่อไม่ให้อาการลุกลามจากต้อลมกลายเป็นต้อเนื้อ จนอาจทำให้การรักษา ทำได้ยากขึ้น เพราะเมื่อเป็นต้อเนื้อ หากมีอาการหนักอาจถึงขั้นต้องทำการผ่าตัดดวงตาเลยทีเดียว