fbpx มารู้จัก"สาเหตุของการเกิดสิว" ตัดวงจร ต้นตอสิวและรักษาอย่างตรงจุด 

มารู้จัก"สาเหตุของการเกิดสิว" ตัดวงจร ต้นตอสิวและรักษาอย่างตรงจุด 

เรียนรู้เกี่ยวกับสิว เพื่อรู้สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิว ตลอดจนการป้องกัน และวิธีรักษาสิวอ

         หากพูดถึงปัญหาผิวหน้าที่ใครหลายคนต้องเคยเผชิญ คงหนีไม่พ้น ‘ปัญหาสิว’ บางคนผิวหน้าบอบบางแพ้ง่าย หรือมีผิวหน้าที่มันกว่าปกติ ทำให้เกิดสิวได้ง่ายกว่า แต่ก็มีหลายคนที่แม้ว่าจะทำความสะอาดใบหน้าเป็นอย่างดี ใช้ครีมบำรุงทุกตัวที่คัดมาแล้วว่าดี และตอบโจทย์สำหรับคนเป็นสิว ทว่าสิวยังกลับขึ้นอยู่ไม่หาย กลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่คอยกวนใจอยู่ตลอด ซึ่งแท้จริงแล้วอาจเป็นเพราะเรายังไม่ทำความเข้าใจกับสิวมากพอ เพราะการที่จะรักษาสิวให้หายได้ต้องรู้ที่มา หรือสาเหตุของการเกิดสิว และต้องรู้ว่าสิวมีกี่ชนิด แน่นอนว่าสิวมีหลายประเภท และมีหลายสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิว ดังนั้น บทความนี้ขอพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับสิว เพื่อรู้สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิว ตลอดจนการป้องกัน และวิธีรักษาสิวอย่างตรงจุด เพื่อไม่ให้สิวกลับมาเกิดซ้ำอีก

Table of Contents

  1. สิว คืออะไร
  2. สาเหตุของการเกิดสิว
  3. วิธีสังเกตสิว
  4. ภาวะแทรกซ้อนจากการเกิดสิว
  5. การรักษาสิวแบบง่ายๆ
  6. การป้องกันไม่ให้เกิดสิวอีก
     

สิว (Acne) คือ สภาพผิวทั่วไปที่เกิดการอุดตันของไขมัน หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วบริเวณรูขุมขน

สิว คืออะไร

           สิว (Acne) คือ สภาพผิวทั่วไปที่เกิดการอุดตันของไขมัน หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วบริเวณรูขุมขน ตลอดจนปัญหาผิวแห้งขาดน้ำ ทำให้ผิวมีการผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินไป การอุดตันของสิวมีหลายลักษณะ ตั้งแต่การเป็นตุ่มเล็กๆ ใต้ผิวหนัง หรือบางครั้งมีการบวม แดง หรือบางครั้งอาจมีการอักเสบร่วมด้วย หากมีปัจจัยกระตุ้นเพิ่มเติม เช่น เชื้อแบคทีเรีย ซึ่งสิวส่วนใหญ่มักเกิดบริเวณใบหน้า แต่สามารถปรากฏให้เห็นบริเวณหลัง หน้าอก และบริเวณไหล่ได้เช่นเดียวกัน

แล้วสิวมีกี่ชนิดกันนะ? โดยทั่วไปแล้วสิวมีหลายชนิด แต่สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

  • สิวที่ไม่มีการอักเสบ ได้แก่ สิวอุดตันหัวขาว และสิวอุดตันหัวดำ
  • สิวที่มีการอักเสบ ได้แก่ สิวอักเสบ สิวหัวหนอง สิวก้อนลึก หรือสิวหัวช้าง และสิวซีสต์

สิว เกิดจากการอุดตันของไขมัน หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

สาเหตุของการเกิดสิว 

           สิว เกิดจากการอุดตันของไขมัน หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วอย่างที่กล่าวไป โดยกลไกการเกิดสิวมาจากการที่บริเวณใต้ผิวหนังของคนเรามีต่อมไขมัน ซึ่งทำหน้าที่ในการสร้างไขมันและน้ำมัน เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง โดยน้ำมันและไขมันจะถูกขับผ่านท่อไขมันหรือรูขุมขน ต่อมาเมื่อเกิดการผลิตน้ำมันมากเกินไป จนน้ำมันและไขมันต่างๆ ไม่สามารถระบายได้ทัน ส่งผลให้เกิดการอุดตันของไขมันส่วนเกินในรูขุมขน หรือเกิดเป็นสิวอุดตัน ซึ่งการอุดตันก่อให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนบริเวณรูขุมขน ตลอดจน ‘เชื้อแบคทีเรีย’ ที่ทำหน้าที่ย่อยสลายไขมัน และเป็นปัจจัยทำให้สิวเจริญเติบโตได้ดี จนกลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด กลไกนี้เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว แต่ความเป็นจริงแล้ว สาเหตุของการเกิดสิวยังเกิดจากปัจจัยอื่นๆ หลายปัจจัย ดังนี้

ปัจจัยภายใน

ปัจจัยภายใน คือ ปัจจัยที่เกิดจากภายในร่างกายของเรา ซึ่งสามารถก่อให้เกิดสิวประเภทต่างๆ ได้ โดยปัจจัยภายในที่กระตุ้นความเสี่ยงในการเกิดสิว มีดังนี้

  • ฮอร์โมน

ฮอร์โมน (Hormones) ถือเป็นหนึ่งสาเหตุของการเกิดสิว โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่น หรือวัยเจริญพันธุ์ที่ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ โดยเฉพาะฮอร์โมนที่มีชื่อว่า ‘แอนโดรเจน’ (Androgens) ซึ่งระดับของฮอร์โมนจะเพิ่มสูงมากขึ้น จนไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังเกิดการขยายตัว และสร้างน้ำมันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดกระบวนการอุดตันของไขมันตามมา หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน

  • พันธุกรรม

มีนักวิจัยหลายคนเชื่อว่า ‘พันธุกรรม’ เป็นสาเหตุของการเกิดสิวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากพ่อ แม่ หรือคนในครอบครัวมีประวัติการเป็นสิวในช่วงวัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่ อาจมีแนวโน้มที่จะทำให้เราเป็นสิวในช่วงวัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่ได้เช่นกัน การเป็นสิวจากพันธุกรรมจึงต้องหาวิธีการรักษาในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับตัวเองต่อไป

  • ความเครียด

ความเครียด เป็นอีกปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิว เนื่องจากเมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดความเครียด ร่างกายจะมีการหลังฮอร์โมน Corticotrophin-releasing ซึ่งส่งผลให้เกิดการผลิตน้ำมันของต่อมไขมันที่มากจนเกินไป ก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน และเกิดเป็นสิวอุดตันได้ ดังนั้น ถ้าไม่อยากเป็นสิวก็ลองพยายามผ่อนคลาย อย่าเครียดมากจนเกินไป

  • การใช้ชีวิตไม่สมดุล

การใช้ชีวิตไม่สมดุล หมายถึง การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ หรือนอนไม่เป็นเวลา รวมถึงการทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายเสียสมดุล ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เกิดการอุดตันของผิว และทำให้เป็นสิวได้

ปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายนอก คือ ปัจจัยที่เกิดจากภายนอกร่างกายของเรา ซึ่งสามารถก่อให้เกิดสิวประเภทต่างๆ ได้เช่นกัน โดยปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นความเสี่ยงในการเกิดสิว มีดังนี้

  • อากาศและมลภาวะ

อากาศร้อน แห้ง หรือชื้น เป็นปัจจัยที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ ตลอดจนฝุ่นควัน และมลภาวะในอากาศในทุกคนต้องเผชิญในแต่ละวัน จนหลายคนเลือกที่จะใส่แมสก์ หรือหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน แต่สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกบนใบหน้า และรูขุมขน ส่งผลให้เกิดเป็นปัญหาสิวตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

  • การทำความสะอาดใบหน้า

การทำความสะอาดใบหน้าแบบผิดๆ หรือการทำความสะอาดแบบไม่ถูกวิธี เช่น การล้างหน้าบ่อยเกินไป การขัดหรือถูหน้าด้วยความรุนแรง ส่งผลให้ผิวหน้าแห้งกร้านจนต่อมไขมันต้องผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น เกิดการอุดตันของผิวหนัง และกลายเป็นสาเหตุของการเกิดสิวในที่สุด หรือแม้แต่การเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือเกิดการเพิ่มขึ้นของน้ำมันบนใบหน้าได้

  • เครื่องสำอางและสารเคมี

ใครหลายคนที่เลือกใช้เครื่องสำอาจต่างๆ ในการแต่งหน้า โดยเฉพาะสาวๆ หลายคนที่ใช้เครื่องสำอางหลายชนิด โดยอาจไม่รู้ว่าในเครื่องสำอางนั้นประกอบไปด้วยสารเคมี หรือส่วนผสมที่ไม่เหมาะสมกับผิวหน้าของตัวเอง อีกทั้งการทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ไม่ดี ยังเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการอุดตันของเครื่องสำอางในรูขุมขน และบริเวณผิวหนังที่มีการอุดตันของไขมันอยู่แล้ว จึงเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้เช่นกัน

สิวมีหลายประเภท แต่หลักๆ จะมีสิวที่ไม่มีการอักเสบ และสิวที่มีการอักเสบ

วิธีสังเกตสิว

           สิวมีหลายประเภท แต่หลักๆ จะมีสิวที่ไม่มีการอักเสบ และสิวที่มีการอักเสบ ซึ่งก่อนที่ทุกคนจะทำการรักษาสิว ทุกคนต้องรู้ก่อนว่าสิวที่ตัวเองเป็นอยู่นั้น คือสิวประเภทใด จะได้หาแนวทาง การป้องกัน และวิธีการรักษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยสิวประเภทต่างๆ ที่สามารถสำรวจได้ด้วยตัวเอง มีดังนี้

สิวหัวดำ (Blackheads)

           สิวหัวดำ (Blackheads) คือ สิวอุดตันประเภทหัวเปิด (Open Comedones) หรือเป็นสิวที่ไม่อักเสบ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็ก โดยบริเวณตรงกลางของสิวจะมีการฝังตัวของเคราติน (Keratin) และลิพิด (Lipid) ซึ่งเกิดการทำปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) กับออกซิเจนจนกลายเป็นสีดำ นอกจากนี้ ยังมีสิวหัวดำแบบแข็งที่เกิดจากการสะสมของ Corneocyte และ Sebum ในรูขุมขน จนเกิดการขยายตัวออกของรูขุมขน และเผยให้เห็นจุดสีดำที่อุดตันอยู่ภายในอย่างชัดเจน

วิธีรักษาสิวหัวดำ

การรักษาสิวหัวดำ สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

  • การเข้ารับการกดสิวจากแพทย์ผิวหนังผู้ชำนาญการ 
  • การใช้ยาละลายหัวสิว โดยมีหลายกลุ่มด้วยกัน เช่น ยาหรือผลิตภัณฑ์กลุ่มวิตามินเอ (Retinoids) ยาเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) และกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid)
  • การเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผิวหนัง หรือเภสัชกร เพื่อใช้ยา หรือรักษาด้วยวิธีการอื่นๆ 

สิวหัวขาว (Whiteheads)

           สิวหัวขาว (Whiteheads) เป็นสิวอุดตันประเภทหัวเปิด (Open Comedones) เหมือนกันกับสิวหัวดำ แต่สิวหัวขาวมักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อุดตันใต้ผิวหนัง หรือรูขุมขน แต่ไม่ได้มีการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ทำให้มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ อุดตันอยู่บริเวณผิวหนังชั้นบน ซึ่งสิวหัวขาวมากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ สามารถก่อให้เกิดเป็นสิวอักเสบตามมาได้

วิธีรักษาสิวหัวขาว

การเข้ารับการกดสิวจากแพทย์ผิวหนังผู้ชำนาญการ 

  • การใช้ยาลดสิวอุดตัน และกำจัดเชื้อแบคทีเรีย โดยมีหลายกลุ่มด้วยกัน เช่น ยาหรือผลิตภัณฑ์กลุ่มวิตามินเอ (Retinoids) ยาเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) กรดอะซีลาอิก (Azelaic acid) และกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid)
  • การเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผิวหนัง หรือเภสัชกร เพื่อใช้ยา หรือรักษาด้วยวิธีการอื่นๆ 

สิวเสี้ยน (Trichostasis Spinulosa)

           สิวเสี้ยน (Trichostasis Spinulosa) เป็นสิวอุดตันที่มีลักษณะคล้ายกับสิวหัวดำ เกิดการการผิดปกติของรูขุมขน และมักมีขนกระจุกเล็กๆ หลายเส้น กระจายตัวแทรกอยู่ในหัวสิวอุดตัน ทำให้มีลักษณะเป็นหนาวแหลมยื่นออกมาจากรูขุมขน จึงเรียกว่า สิวเสี้ยน โดยสิวประเภทนี้มักพบได้มากบริเวณจมูก หน้าผาก ข้างแก้ม และคาง

วิธีรักษาสิวเสี้ยน

  • การใช้ยาลดสิวอุดตัน โดยมีหลายกลุ่มด้วยกัน เช่น ยาหรือผลิตภัณฑ์กลุ่มวิตามินเอ (Retinoids) ยาเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) กรดกลีโซลิค (Glycolic) และกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid)
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA เพื่อผลัดเซลล์ผิว
  • การสครับหน้า และขัดผิวหน้าด้วยแปรงขัดผิว
  • การเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผิวหนัง หรือเภสัชกร เพื่อใช้ยา หรือรักษาด้วยวิธีการอื่นๆ 

สิวที่มีตุ่มนูนแดง (Papule)

           สิวที่มีตุ่มนูนแดง (Papule) เป็นสิวอักเสบระยะเริ่มต้นที่เกิดจากการติดเชื้อของแบคทีเรีย และการอุดตันของรูขุมขน หรืออาจเกิดจากการบีบ กด แคะ และแกะสิว ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปใบรูขุมขนจนก่อให้เกิดเป็นสิวอักเสบในที่สุด ซึ่งสิวที่มีตุ่มนูนแดงมีขนาดเล็กไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร มักขึ้นตามบริเวณใบหน้า สังเกตได้จากการสัมผัส หรือลูบผิวหน้าแล้วมีลักษณะนูน ไม่เรียบเนียน หรือบางครั้งอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อสัมผัส

วิธีรักษาสิวที่มีตุ่มแดง

  • การติดแผ่นดูดสิว
  • การใช้ยาลดสิวอักเสบ โดยมีหลายกลุ่มด้วยกัน เช่น ยาหรือผลิตภัณฑ์กลุ่มวิตามินเอ (Retinoids) ยาเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) กรดอะซีลาอิก (Azelaic acid) และกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid)
  • การใช้ยาแก้สิวอักเสบชนิดทาน เช่น ด็อกซีไซคลีน (Doxycycline) เซฟาเลกซิน (Cephalexin) ไอโสเตรตินอย (Isotretinoin) และยาคุมกำเนิด ซึ่งการใช้ยาแต่ละตัวในการรักษา จะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผิวหนัง หรือเภสัชกรเท่านั้น
  • การเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผิวหนัง หรือเภสัชกร เพื่อใช้ยา หรือรักษาด้วยวิธีการอื่นๆ

สิวหัวช้าง (Acne Conglobata)

           สิวหัวช้าง (Acne Conglobata) เป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรงมากที่สุด เกิดจากการอักเสบใต้ผิวชั้นหนังแท้ มีลักษณะเป็นตุ่มขนาดใหญ่ ภายในมีหนองข้นเนื่องจากการอักเสบ แต่ไม่มีหัว หรือขอบเขตของสิวที่ชัดเจน มักเกิดขึ้นบริเวณผิวหน้า อก หรือหลัง และสังเกตได้ง่ายจากอาการนูน บวม แดง นอกจากนี้ สิวหัวช้างยังเป็นสิวที่รักษาได้ยากที่สุด ต้องมีการปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม

วิธีรักษาสิวหัวช้าง

  • การใช้ยาลดสิวอุดตัน โดยมีหลายกลุ่มด้วยกัน เช่น ยาหรือผลิตภัณฑ์กลุ่มวิตามินเอ (Retinoids) ยาเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) และกรดอะซีลาอิก (Azelaic acid)
  • การใช้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic and antibacterial agents) และยา Isotretinoin 
  • การเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ผิวหนัง หรือเภสัชกร เพื่อใช้ยา หรือรักษาด้วยวิธีการอื่นๆ เช่น การผ่าตัด การฉีด Corticosteroids และการรักษาด้วยเลเซอร์ เป็นต้น

ภาวะที่แทรกซ้อนที่เกิดขึ้นอาจทำให้สิวไม่หาย จนมีปัญหาความกังวล หรือความเครียด

ภาวะแทรกซ้อนจากการเกิดสิว

           การเป็นสิวสามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้เช่นกัน หากทำการรักษาไม่ถูกวิธี และไม่เหมาะสมกับสภาพของผิวหน้า หรือประเภทของสิว ซึ่งภาวะที่แทรกซ้อนที่เกิดขึ้นอาจทำให้สิวไม่หาย เกิดเป็นวงจรสิวที่เกิดซ้ำๆ หรือมีการพัฒนาของสิวที่รุนแรงมากขึ้น ตลอดจนในบางคนที่มีปัญหาสิวมานาน อาจเกิดความกังวล หรือความเครียด ทำให้เกิดเป็นภาวะซึมเศร้า และการปลีกตัวออกจากสังคมได้ นอกจากนี้ สิวบางประเภทที่ต้องทำการรักษาด้วยวิธีการทางหัตถการ หรือการศัลยกรรม อาจมีรอยแผล หรือรอยหลุมสิวจากการเป็นสิวที่ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ และหาแนวทางการรักษาต่อไปโดยแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง

หากเป็นสิวในระยะเริ่มต้น หรือไม่ได้มีความรุนแรง วิธีรักษาสิวเบื้องต้น

วิธีรักษาสิวแบบง่ายๆ

หากเป็นสิวในระยะเริ่มต้น หรือไม่ได้มีความรุนแรง วิธีรักษาสิวเบื้องต้น สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้

  • ล้างหน้าให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง หากแต่งหน้า ให้เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางก่อนทุกครั้ง
  • ใช้ยาประเภทใช้ภายนอก หรือทานยาให้เหมาะสมกับประเภทสิว โดยต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนัง หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรู้วิธีการใช้งานที่ถูกต้องเหมาะสม
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และเหมาะกับสภาพผิว
  • ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน

วิธีป้องกันสิว เพื่อไม่ให้สิวกลับมาเกิดซ้ำอีก ไม่บีบ กด แคะ แกะ หรือเกาสิวเด็ดขาด

วิธีป้องกันสิวไม่ให้เกิดขึ้นอีก

วิธีป้องกันสิว เพื่อไม่ให้สิวกลับมาเกิดซ้ำอีก สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้

  • ไม่บีบ กด แคะ แกะ หรือเกาสิวเด็ดขาด เพราะอาจทำให้สิวอักเสบมากขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า หรือบริเวณที่เป็นสิว
  • สวมเสื้อผ้าที่มีความสบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป
  • อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะหลังการทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรนอนดึก
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

สรุป

         สาเหตุของการเกิดสิว (Acne) มาจากการอุดตันของรูขุมขน และความผิดปกติของต่อมไขมัน รวมถึงเชื้อแบคทีเรีย และปัจจัยอื่นๆ โดยสิวมีด้วยกันสองประเภทหลักๆ คือ สิวไม่อักเสบ และสิวอักเสบ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหากวนใจของใจหลายคน เพราะสิวทำลายทั้งผิวหน้า และสภาพจิตใจของเราได้ ซึ่งวิธีป้องกันสิว และวิธีรักษาสิวก็สามารถทำได้หลายวิธีอย่างที่กล่าวไป แต่สำหรับใครที่เป็นสิวเห่อเยอะมาก และรักษาตามวิธีการข้างต้นแล้วแต่ยังไม่ได้ผล ลองมารักษาสิวได้ที่ Lovely Eye Clinic ได้ เพราะเรามีโปรแกรม Lovely Acne Clear เพื่อให้ปัญหาสิวหมดไป เผยผิวหน้าสดใส ไร้สิว