fbpx ทำตาสองชั้นที่  Lovely Eye and Skin Clinic  คุ้มค่าอย่างไร

ทำความรู้จัก หมอรวงข้าวผู้อยู่เบื้องหลังความงามรอบดวงตาคู่สวย

            หลายๆ คนที่เคยคุยกับคุณหมอรวงข้าว หรือเพิ่งรู้จัก หรือเคยเข้ามาพบปะ พูดคุยปรึกษากับคุณหมอ ก็มักจะเกิดความสงสัยโดยตั้ง 3 คำถามยอดฮิตว่า คุณหมออายุเท่าไหร่แล้วคะ? คุณหมอเป็นหมอตาแล้ว ทำไมมาทำศัลยกรรมความงาม? และตาของคุณหมอก็ทำศัลยกรรมด้วยหรือเปล่าคะ? ทำที่ไหน ทำไมดูเป็นธรรมชาติมาก สวยมาก ทำแบบไหน หนูจะเอาตาอย่างหมอค่ะ วันนี้ทีมงาน Lovely Eye ก็ขอบุกเข้าห้องพักคุณหมอไปเอาคำตอบมาให้ทุกๆ คนได้ทราบกัน

Table of Contents

  1. ประวัติของหมอรวงข้าว
  2. ทำไมถึงตัดสินใจมาเป็นหมอศัลยกรรมตา
  3. Lovely Eye & Skin Clinic นี่ดียังไง?
  4. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำตาที่ Lovely Eye

 

ช่วยเล่าประวัติของหมอรวงข้าว แบบคร่าวๆ ได้ไหม?”

หมอรวงข้าว : 

           ก่อนอื่นก็เป็นเรื่องอายุนะคะ ปกติกว่าจะเรียนจบหมอ และใช้ทุนเรียนต่อเพื่อจบเฉพาะทาง จะมีอายุไม่น้อยกว่า 30 ปีค่ะ แต่ที่ส่วนใหญ่รู้สึกว่าหมอยังดูเด็ก เพราะคงเรียนเยอะเรียนนาน จึงทำให้ชินกับการเป็นเด็กมากกว่า โดยตัวหมอรวงข้าวเนี่ยเรียนจบแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปกติเรียนจบหมอใช้เวลา 6 ปี หลังจากนั้นทำงานเป็นแพทย์ใช้ทุนพร้อมกับการเทรนนิ่งเพื่อเป็นจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ อีก 5 ปี หลังจากนั้นจึงออกมาทำงานเป็นจักษุแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน โดยงานหลักของหมอตา ไม่ใช่วัดสายตาประกอบแว่นนะคะ แต่เป็นการรักษาโรคทางตาซึ่งมีมากมาย โรคหลักที่ต้องผ่าตัดรักษาก็คือ ต้อกระจกด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์สลายต้อ ลอกต้อเนื้อ ซึ่งเป็นงานที่ละเอียด ต้องมองด้วยกล้องผ่าตัด เป็นเหตุผลที่หมอเลือกเรียนเป็นหมอตา เพราะชอบทำงานที่ต้องใช้ความละเอียด ประณีตอยู่แล้ว และผลของการรักษาโรคทำให้คนที่ตามัวกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ ส่วนโรคทางตาอื่นๆ ก็มีรองลงไป รวมถึงการรักษาโรคหนังตาตกจากกล้ามเนื้อตาทำงานผิดปกติโดยกำเนิด หรือตามอายุ หนังตาหย่อนมารบกวนการมองเห็น หนังตาม้วนเข้าขนตาทิ่มตา ซึ่งมักจะทำในคนที่มีปัญหาจริงๆ ส่วนเรื่องทำแล้วดูสวยขึ้นอ่อนวัยขึ้นนั้นถือเป็นผลลัพธ์ของแถมที่ได้ตามมาค่ะ

 

“แล้วทำไมถึงตัดสินใจมาเป็นหมอศัลยกรรมตา?”

หมอรวงข้าว : 

           ระหว่างการเรียนหมอมีความสนใจเรื่องการผ่าตัดเปลือกตามากเป็นพิเศษ เพราะได้รับการถ่ายทอดวิชาการทำตาสองชั้นจากคุณหมอท่านหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์ญาติผู้ใหญ่ของหมอ และยังเป็นผู้ที่ทำตาสองชั้นให้ หมอรวงข้าวเมื่อปี 2544 ก่อนจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย จึงถือว่าเคยเป็นคนที่ผ่านการทำตาจากอาหมวย ตาชั้นเดียวมาเป็นตาสองชั้น  ซึ่งเป็นประสบการณ์ตรงของหมอเองค่ะ จึงทราบความรู้สึกเป็นอย่างดี แต่ตอนนั้น หมอไม่รู้สึกกลัวเลยนะคะ คงเป็นเพราะเห็นการผ่าตัดทำตาสองชั้นมาตั้งแต่เล็ก นั่งดูหน้าตาเฉย ตอนเด็กก็คงอยากเป็นหมอด้วยเลยไม่กลัวเลือด เลยสนใจนั่งสังเกตการณ์ เห็นคุณหมอดึงๆ ตัดๆ อย่างกับทำงานฝีมือ ตอนนั้นที่จะทำตาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำออกมาจะเป็นยังไง

           เพราะสมัยนั้นไม่มีพวกรีวิวพันทิป ดั้งโด่งเหมือนสมัยนี้ คุณแม่บอกทำแล้วจะสวยขึ้นก็เลยเกิดความอยากทำ เพราะตอนเด็กรู้สึกว่าตัวเองไม่สวยเลย ลองเอาไม้จิ้มฟันมาแตะให้เป็นสองชั้นดูกระจกก็รู้สึกว่าดูดีขึ้นเหมือนกัน สมาชิกครอบครัวของหมอคนอื่นที่ตาชั้นเดียวเพราะเป็นตระกูลคนจีน คุณหมอท่านนี้ก็ทำให้เกือบหมดทุกคน จนถึงปัจจุบัน ไม่มีใครที่ไม่เอ่ยปากชมว่าตาของคุณหมอทำออกมาสวย ด้วยเหตุเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หมอแปลกใจ สงสัยอยากรู้ว่ามีเทคนิคอะไรถึงทำตาสองชั้นออกมาได้อย่างนี้ เพราะเท่าที่เรียนในตำราก็ไม่ได้บอกทั้งหมดและทำออกมาก็ไม่เหมือนตาของเราเอง อาจารย์หมอท่านนี้เริ่มทำตาสองชั้นให้คนไข้ที่โรงพยาบาลรามาตั้งแต่ปี 2513 หลังจากที่ช่วยอาจารย์หมอ ที่นั่นทำเพียง 2 ราย หลังจากนั้นก็ได้ไปศึกษาการทำตาสองชั้นที่ประเทศญี่ปุ่น (สมัยนั้นญี่ปุ่นดังกว่าเกาหลี) และพัฒนาฝีมือและทำตาสองชั้นที่ดูเป็นธรรมชาติและสวยงามมาก มาตลอด 43 ปี จนเกษียณ ทำตาสองชั้นมาหลายหมื่นราย ควบคู่กับการทำงานเป็น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดด้วย แต่ท่านไม่เคยถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ใครไม่เคยมีการโฆษณา แต่อาศัยการบอกต่อปากต่อปาก และผลงานล้วนๆ ท่านเห็นว่าหมอรวงข้าวซึ่งตามลำดับญาติ นับเป็นน้องสาวสนใจ และอยากให้มีผู้สืบทอดทำต่อได้ เพราะเทคนิคที่พัฒนามาไม่ได้สอนใครไว้ อาศัยประสบการณ์ และฝีมือจริงๆ กว่าจะมีเทคนิคการทำที่พิเศษและเป็นธรรมชาติ  ท่านย้ำเสมอว่า “ต้องทำตาด้วยใจรักจริงๆ แล้วจะออกมาดีทุกราย”

ทำตา ที่ Lovely Eye คุ้มค่าอย่างไร-7.png

             นอกจากจะอาศัยหลักการที่ได้รับการถ่ายทอดมาแล้ว เมื่อกระแสในยุคปัจจุบัน ศัลยกรรมเกาหลีกำลังมาแรง จึงอดไม่ได้ที่จะเดินทางไปศึกษาให้หมอเกาหลีตัวเป็นๆ สอนทำกับคนไข้จริงที่เกาหลีแบบตัวต่อตัว อยากรู้ว่าที่เขาทำแล้วออกมาสวยนั้นเขาทำกันยังไง ก็ต้องยอมรับว่าเขาทำเคสเป็นจำนวนมากและพยายามพัฒนาเทคนิคต่างๆ ให้สามารถทำได้เร็ว สวยงาม และหายเร็ว เพื่อไม่ให้มีเคสหลุดหมอรวงข้าวโดยเด็ดขาด เมื่อทราบแล้วก็นำมาปรับใช้กับการผ่าตัดของหมอเอง ทุกวันนี้หมอมีความตั้งใจที่จะทำให้ตาที่ดูไม่สวย ให้ดูสวยขึ้น เอาใจใส่ทุกคน อยากให้คนที่มาทำตามีความสุขกลับไป แต่บางครั้งการคาดหวังมากเกินไปเราก็เครียดเอง เห็นคนที่มาปรึกษาเรื่องแก้ไขตาที่ทำมาจากที่อื่นแล้ว ก็อยากช่วยให้เขาดีขึ้น แต่เรื่องการทำตามีหลายๆ อย่างที่อาจจะต้องเผื่อใจไว้บ้าง เนื้อเยื่อหนังตาเรา ไม่ใช้กระดาษ เนื้อเรามีทั้งเส้นเลือด เส้นประสาท ทางเดินน้ำเหลือง มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลายๆ อย่างที่นอกเหนือจากเทคนิคฝีมือการผ่าตัดของหมอ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักว่าจะทำให้ทำออกมาแล้วจะสวยหรือไม่ ทั้งการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ปัจจัยก่อนผ่าตัด เช่น เนื้อเยื่อพังผืดจากการทำครั้งก่อน การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อดึงหนังตาจากการผ่าตัดมาหลายครั้ง ลักษณะรูปตาเดิม ตาที่ไม่เท่ากันอยู่เดิม ลักษณะคิ้วตก คิ้วยก รวมถึงความคาดหวังที่เกินความเป็นจริง เหล่านี้ล้วนมีผลต่อผลลัพธ์ของการผ่าตัดทำตาสองชั้นหรือปรับชั้นตาให้สวยงามทั้งสิ้น การผ่าตัดซ้ำเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับสำหรับการศัลยกรรมความงามทุกชนิดและสิ่งที่นอกเหนือการควบคุมอีกอย่างก็คือ ดวงนะคะ ลองคิดดูสิว่า คนเราเกิดมายังสวยไม่เท่ากัน การผ่าตัดรักษาโรคทุกอย่างยังมีที่ผ่าแล้วดีขึ้น เท่าเดิม หรือไม่หายก็มี จริงไหมคะ

             สำหรับคนที่ไปทำตาสองชั้นมาใหม่จากที่ไหนก็ตาม หรือทำกับหมอเอง ยังไม่ควรวิตกกังวลกับผลการผ่าตัด หรือขนาดชั้นตา หรือเปรียบเทียบขนาดตาสองข้าง จนกว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง อย่างน้อยก็ 3-6 เดือน แล้วแต่บางคน หายเร็วหายช้าไม่เท่ากัน วิตกกังวลจะเสียสุขภาพนะคะ นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจว่าโครงสร้างทางกายวิภาคของเบ้าตาและรูปร่างของตาแต่ละคนไม่เหมือนกัน และปัญหาเดิมที่มีก็ไม่เหมือนกัน จึงอย่าเปรียบเทียบว่าทำไมตาของเราไม่เหมือนคนนั้น ไม่เหมือนคนนี้ ขอให้เข้าใจและมีความสุขกับสิ่งที่ตนเองมีและได้รับมากที่สุด

 

“ก่อนจากกันไปช่วยขาย คลินิกนิดนึง Lovely Eye & Skin Clinic นี่ดียังไง?”

หมอรวงข้าว :  

แก้ไขปัญหารอบดวงตาอย่างครอบคลุม

ก่อนอื่นนะคะคือ ที่คลินิกเรา “แก้ไขปัญหารอบดวงตาอย่างครอบคลุม” โดยพื้นฐานดวงตาของแต่ละคน จะมีความแตกต่างกันนะคะ ปัญหาตาของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน การทำตาสองชั้นในแต่ละเคส ย่อมเหมาะกับเทคนิคที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ในบางเคสที่ตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน สาเหตุอาจไม่ได้เกิดจากชั้นตาที่ไม่เท่ากันเพียงอย่างเดียว แต่หมอจะวิเคราะห์อย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เช่น ตาสองข้างไม่เท่ากัน เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง การทำตาสองชั้นอย่างเดียว อาจช่วยให้ตาเท่ากันได้ในระยะหนึ่งเท่านั้น แต่ในที่สุดก็ต้องกลับมาแก้ตาซ้ำอีกครั้ง ซึ่ง Lovely Eye & Skin Clinic มีเทคนิคการทำตาสองชั้น ร่วมกับการดึงกล้ามเนื้อตาลีเวเตอร์ และเทคนิคการแก้ปัญหาตาอื่นๆ ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและไม่ต้องแก้ไขตาซ้ำอีก รวมถึงเคสที่ทำมาแล้วจากที่อื่นที่แก้ไขยากๆ ที่ไหนก็ไม่รับแก้ ก็ทำให้กลับมาดีขึ้นได้ค่ะ

การแก้ตาไม่ใช่แค่เทคนิคแต่ต้องใช้มุมมองทางศิลปะ

หมอให้ความสำคัญกับศิลปะการออกแบบชั้นตาที่โดนใจ ตรงใจ ถูกใจคนไข้ เพราะการทำตาสองชั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสวยความงาม ถ้าเราไม่เข้าใจศิลปะ ก็คงทำตาให้สวยไม่ได้ ซึ่งศิลปะเป็นมุมมองเฉพาะบุคคลที่คนอื่นเลียนแบบไม่ได้  หมอใช้ประสบการณ์การทำตาทั้งหมด บวกกับความชื่นชอบในศิลปะ ในการตรวจสอบความสวยงามที่สอดคล้องกันทั้งใบหน้าของคนไข้แต่ละคน มีการดีไซน์ ออกแบบชั้นตาที่เข้ากับรูปหน้า และเป็นธรรมชาติค่ะ

Lovely Eye & Skin Clinic มีนวัตกรรมที่ช่วยในการรักษาแผลหลังผ่าตัดให้หายเร็วขึ้น

อย่างที่เรารู้กันนะคะ ว่าปัญหาตาของคนไทยส่วนใหญ่ คือมีหนังตาเยอะ สักร้อยละ 90 เลยค่ะ ที่ต้องผ่าตัดในรูปแบบตัดหนังตา เพราะฉะนั้นจะต้องมีรอยแผล ทาง Lovely Eye & Skin Clinic จึงมีนวัตกรรมที่ทำให้แผลหายเร็ว เช่น Pico ช่วยลดรอยแผลหลังการทำตาสองชั้น และ INDIBA Eye Restore ช่วยลดอาการตึงรั้งของแผลผ่าตัด ในช่วงที่แผลกำลังสมาน ทำให้แผลเนียนเรียบขึ้น เป็นต้น

พอได้เล่าแบบนี้แล้ว ก็ชวนคิดถึงคำถามที่คนถามเข้ามาบ่อยๆ เลยค่ะ ถ้าอย่างนั้น หมอจะขออนุญาตตอบในบทสัมภาษณ์นี้เลย

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำตาที่ Lovely Eye

ทำตา ที่ Lovely Eye คุ้มค่าอย่างไร-5.png

 

Q : จริงหรือไม่? กับประโยค “ทำตาสองชั้นกับคุณหมอรวงข้าวอุ่นใจ ไม่มีคำว่าพลาด”

A : ทำตาสองชั้นกับหมอรวงข้าวอุ่นใจได้ ด้วยประสบการณ์การผ่าตัดที่ยาวนาน ทำให้หมอมั่นใจว่าในการผ่าตัดทำตาสองชั้นจะต้องไม่มีคำว่าพลาด ต้องใช้สมาธิสูง จิตและมือที่นิ่งสำคัญมาก เรื่องคนไข้กลัวตาเบี้ยวอะไรแบบนี้ ไม่มีเกิดขึ้น วางใจได้ว่าไม่มีเคสหลุดหมอรวงข้าวแน่นอน บวกกับการใช้ New Lovely Microlaser ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำ เที่ยงตรงมากขึ้น และด้วยความที่เป็นจักษุแพทย์โดยตรง ก็จะรู้ปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับดวงตา อย่างทำไปแล้วรู้สึกเคืองตา หรือมีปัญหาอื่นๆ หมอก็จะสามารถรักษาให้หายเป็นปกติได้

Q : คุณหมอรวงข้าว ทำตาสองชั้นมานับหมื่นคู่แล้ว จริงหรือ?

A : หมอทำตาสองชั้นให้คนไข้เป็นอาชีพหลักมานาน 7 ปีและทำงานสัปดาห์ละ 6 วันค่ะ เริ่มต้นจากการเป็นจักษุแพทย์หรือหมอตาที่ส่วนใหญ่ก็จะคลุกคลีอยู่กับการผ่าตัดผ่านกล้อง เช่น การผ่าตัดรักษาต้อกระจก และโรคต้อต่างๆ ในยุคนั้น ถือว่าเป็นยุคบุกเบิกของการศัลยกรรมเกาหลีที่เข้ามามีอิทธิพลในประเทศไทยเลยค่ะ ตอนนั้นหมอไปเรียนต่อที่ประเทศเกาหลี เกี่ยวกับการศัลยกรรมตาเป็นรุ่นแรกเลย แล้วก็ได้ลงมือผ่าตัดคนไข้จริง มีโอกาสได้คลุกคลีอยู่ในวงการนี้อย่างใกล้ชิด ทำให้รู้เทรนด์ และได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่นานพอสมควร จากนั้นพอได้ผ่าตัด ก็สะสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ จากการผ่าตัดตาสองชั้นหลักสิบ เป็นหลักร้อย หลักพัน สู่หลักหมื่นคู่ ทำให้หมอรู้ความต้องการของคนที่ต้องการทำตาสองชั้นว่าอยากได้ตาประมาณไหน ตอนนี้พอหมอเห็นหน้าคนไข้ปุ๊บ ก็มองภาพออกได้ทันทีเลยค่ะว่าถ้าทำตาออกมาจะเป็นอย่างไร มันขึ้นมาในหัวเลยว่าคนนี้จะต้องออกแบบชั้นตาอย่างไร ให้รับกับใบหน้าของเขา

Q : ทำไมต้องมีเทคนิคการทำตาหลายแบบ? ทุกเคสใช้วิธีเดียวกันได้ไหม?

A : เป็นไปไม่ได้ เพราะคนไข้แต่ละคนมีปัญหาตาที่แตกต่างกัน เป็นสาเหตุที่ทำให้หมอต้องวิเคราะห์อย่างละเอียด เพราะต้องตรวจสอบว่าแต่ละเคสมีปัญหาตรงไหนบ้างและต้องการการแก้ไขอย่างไร ไม่ใช่ว่าทุกเคสจะสามารถใช้วิธีเดียวกันได้ สังเกตง่ายๆ ได้จากราคา ซึ่งหมอจะไม่ตั้งราคาว่าทำตาสองชั้นทุกเคส ราคาเท่ากัน แต่จะวิเคราะห์ปัญหาตาของคนไข้แต่ละเคสอย่างละเอียดถี่ถ้วน แล้วแนะนำเทคนิคที่ช่วยแก้ปัญหา รวมถึงเทคนิคการทำตาสองชั้นที่เหมาะกับแต่ละบุคคล การออกแบบรูปทรงดวงตาที่เหมาะสม และตรงใจคนไข้แต่ละเคสมากที่สุด

Q : มีวิธีรับมืออย่างไร? กับความคาดหวังของคนไข้ที่มากเกินไป

A : หมอจะพยายามอธิบายข้อจำกัดการผ่าตัดโดยละเอียดให้คนไข้ทราบ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด โดยอธิบายทุกปัญหาที่คนไข้เป็น รวมถึงข้อจำกัดที่คนไข้จะไม่ได้จากการผ่าตัดในครั้งนั้นๆ เพื่อให้คนไข้เข้าใจและไม่คาดหวังมากเกินไป

Q : ทำไมคุณหมอถึงต้องรับเคสต่อวันในจำนวนจำกัด?

A : เพราะหมออยากให้เวลาแต่ละเคสอย่างเต็มที่แบบ Exclusive ผ่าตัดอย่างประณีต ไม่เร่งรีบ หมอมองว่าการทำตาสองชั้นเหมือนการสร้างผลงานศิลปะ จึงต้องการทำอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ต้องใช้เวลาในการมองให้ลึกทุกรายละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด จึงต้องจำกัดจำนวนเคสในแต่ละวัน เพื่อจะได้ใช้เวลากับทุกเคสได้เต็มที่

Q : นอกจากจะมีลูกค้าเป็นจำนวนมากชื่นชมคุณหมอแล้ว ยังพูดชมเจ้าหน้าที่คลินิกเยอะมาก

A : คนไข้มาทำตาสองชั้น เขามักจะมีความวิตกกังวลเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว หมอจึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลได้ติดตามอาการคนไข้อย่างละเอียด เพื่อลดความวิตกกังวล และเมื่อมีปัญหาอะไรจะได้แก้ไขอย่างทันท่วงที ทำให้ลูกค้าที่มาทำตาสองชั้นที่นี่ เกิดความสบายใจที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

Q : ถ้าอยากทำตาสองชั้นแบบเกาหลี ทำที่ Lovely Eye & Skin Clinic ได้ไหม?

A : ได้แน่นอน อยากทำตาสองชั้นแบบเกาหลี ไม่ต้องบินไปไกลถึงประเทศเกาหลี เพราะ Lovely Eye & Skin Clinic มีทุกเทคนิคที่เกาหลีมี ไม่ว่าจะเป็นการเปิดหัวตา เปิดหางตา ทำตาโต การดึงกล้ามเนื้อตา ซึ่งหมอได้ศึกษาเทคนิคการทำตาสองชั้นและเปิดหัวตาจากประเทศเกาหลีโดยตรง จึงมีความชำนาญ รู้ลึกและเข้าใจทุกรายละเอียดของการทำตาสองชั้นแบบเกาหลี 

Q : ตาสวยแล้ว แต่รอบตายังดูเหี่ยวย่น คุณหมอรวงข้าวจะช่วยแก้ได้ไหม?

A : วิธีที่จะทำให้รอบดวงตาของเราสวย ไม่ได้มีแค่การผ่าตัดทำตาสองชั้นเพียงอย่างเดียว เพราะคนไข้บางคนไม่ได้มีปัญหาแค่หนังตาเกิน แต่อาจจะมีความหย่อนคล้อยรอบดวงตา หรือมีร่องริ้วรอยรอบดวงตาที่ทำให้หน้าตาดูอิดโรย ดูมีอายุ หมอจึงต้องเตรียมวิธีแก้ไขปัญหารอบดวงตาอื่นๆ ที่ใช้รักษาร่วมกัน เพื่อทำให้เกิดความสวยงามสอดคล้องร่วมกันทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นการฉีดปรับชั้นตา การทำฟิลเลอร์ หรือการทำ Thermage Eye Reborn และนวัตกรรมเพื่อผิวรอบดวงตาอื่นๆ

Q : จริงไหม? ที่ Lovely Eye & Skin Clinic มีภาพรีวิวเคสทำตาสองชั้นให้ดูมากที่สุด

A : ด้วยจำนวนการทำงาน 6 วัน ต่อสัปดาห์ มาเป็นเวลานานถึง 7 ปีของหมอ ทำให้ Lovely Eye & Skin Clinic เป็นคลินิกที่มีภาพรีวิวเคสทำตาสองชั้นสวยๆ เป็นจำนวนนับหมื่นเคส ออกสู่สายตาผู้ติดตามเว็บไซต์ lovelyeyeclinic.com แฟนเพจ Lovely Eye and Skin และ IG : lovelyeyeandskin_by_drroungkaw เป็นจำนวนมาก จนก้าวสู่คลินิกที่มีความนิยมอันดับต้นๆ ของคลินิกศัลยกรรมตาของประเทศไทย

            ได้รู้จักคุณหมอรวงข้าว รวมถึงเรื่องราวของการทำตาสองชั้นมากขึ้นกันแล้ว ทำให้รู้เลยว่าผลลัพธ์ของการทำตาสองชั้นที่สวยงามนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ทั้งประสบการณ์ เทคนิคที่ใช้ผ่าตัด การพัฒนาฝีมือของแพทย์ผู้ผ่าตัด การให้คำแนะนำและดูแลของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นการพิจารณาจากรูปรีวิวเพียงอย่างเดียวอาจไม่ตอบโจทย์ ก่อนตัดสินใจทำตา ควรหาข้อมูลอย่างรอบด้าน นอกจากคลินิกต้องได้มาตรฐาน แพทย์มีฝีมือและประสบการณ์ในการผ่าตัด การแก้ปัญหาตาที่เหมาะกับแต่ละบุคคล และการบริการที่ดีแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือผลหลังการผ่าตัดจะต้องมีความสเถียร ซึ่งอาจหาข้อมูลได้จากการบอกต่อของผู้รับบริการจริงของคลินิกนั้นๆ เมื่อสำรวจได้ครบทุกข้อแล้วค่อยตัดสินใจเลือก ก็ยังไม่สาย