มาดูวิธีเปลี่ยนตาดุเป็นตาสวยหวาน ปรับโหงวเฮ้งตา ให้มีเสน่ห์น่ามองขึ้น 

           สำหรับคนที่มีตาดุ อาจพบเจอกับปัญหาในการดำเนินชีวิตได้ เนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะที่ดึงดูดสายตา ถ้าหากมีดวงตาที่ดุ ก็จะทำให้หน้าดุจนดูไม่น่าเข้าหา รู้สึกถึงความไม่เป็นมิตร และดูไม่มีโหงวเฮ้งจนใช้ชีวิตลำบาก ส่งผลต่อภาพลักษณ์โดยรวมในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น แต่อย่าเพิ่งเป็นกังวลไป ปัญหานี้มีทางออก มาดูวิธีการแก้ไขจากตาดุให้เป็นตาสวยหวาน มีเสน่ห์น่ามอง และดูเป็นมิตรมากขึ้น ในบทความนี้กันเลยดีกว่า

Table of Contents

1. ตาดุเป็นอย่างไร ทำไมต้องแก้ไข
2. ดวงตาดุ เกิดจากอะไร
3. ตาดุ ส่งผลเสียอย่างไรต่อบุคลิก
4. คนตาดุ ส่งผลต่อโหงวเฮ้งของดวงตาอย่างไร
5. เปลี่ยนตาดุให้ตาสวยหวาน ได้อย่างไรบ้าง
6. การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมเปลี่ยนตาดุให้ตาสวยหวาน 
7. การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมเปลี่ยนตาดุให้ตาสวยหวาน 
8. เปลี่ยนตาดุให้ตาหวานที่ Lovely Eye & Skin Clinic ดีกว่ายังไง

           ผู้ที่มี ตาดุ สามารถสังเกตได้จากดวงตาจะค่อนข้างเล็ก เป็นคนที่มีตาชั้นเดียว หรือชั้นตาหลบใน มองเห็นชั้นตาได้ไม่ชัดเจน อีกลักษณะหนึ่งคือมีดวงตากลมโต หางตาชี้ขึ้น ทำให้หน้าดุ ดูโกรธ ดูเหวี่ยง และเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้อื่นรู้สึกกลัวจนไม่อยากเข้าใกล้ ขาดความมั่นใจในการพูดคุยกับใครๆ 

           ส่วนใหญ่ผู้ที่มีปัญหาดวงตาดุมักจะเกิดจากการมีลักษณะดวงตาที่เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่เกิด โดยมีปัจจัยที่ทำให้ตาดุอยู่ 2 ปัจจัย นั่นก็คือ มีบริเวณที่เป็นพื้นที่ตาขาวอยู่ระหว่างตาดำและขอบเปลือกตาล่าง และระดับของคิ้วอยู่ต่ำกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณหัวคิ้ว ทำให้ภาพรวมใบหน้าดูดุ และดูอารมณ์ไม่ดีอยู่ตลอด

           บริเวณบนร่างกายที่ผู้สนทนามักจะมองมาเป็นอันดับแรกๆ นั่นก็คือดวงตา ผู้ที่มีตาดุซึ่งเกิดจากชั้นตาหนาหรือหางตาเชิดสูงเกินไป อาจพบปัญหาใบหน้าดูแข็งกร้าว ดูโกรธ และถูกมองในแง่ลบได้ง่ายถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูดจาหรือทำอะไรไม่ดี ทำให้ส่งผลเสียต่อบุคลิกโดยรวมทำให้ดูเป็นคนไม่น่าเข้าหา ทั้งที่จริงแล้วตัวเราอาจจะเป็นคนใจดี แต่ดวงตาอาจจะทำให้เราดูกลายเป็นคนหงุดหงิดฉุนเฉียวได้

           ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญในการที่จะสื่อสารอารมณ์ความรู้สึก การมีรูปทรงตาที่ดีจึงช่วยเสริมโหงวเฮ้งของดวงตา ดังนั้นคนที่มีตาดุ ตาไม่เท่ากัน ตาชั้นเดียว หรือชั้นตาหลบใน จะทำให้โหงวเฮ้งไม่ดี และภาพลักษณ์เสียได้ เพราะถึงแม้ว่าส่วนอื่นๆ บนใบหน้าจะดูเป็นมิตร แต่ถ้ามีดวงตาดุก็จะส่งผลต่อภาพลักษณ์โดยรวมมาก ทำให้มีปัญหาในการติดต่องาน หรือไม่มีคนกล้าเข้าหาพูดคุยเพราะรู้สึกกลัว รวมถึงอาจมองว่าคนตาดุไม่จริงใจ และขาดความน่าเชื่อถือได้ง่ายๆ ทำให้อาจมีผลต่อการทำงาน และการทำธุรกิจได้ โดยสามารถปรับให้ตาดูสวยตามโหงวเฮ้งที่ดีได้ ด้วยการปรับตาให้ดูอ่อนโยนขึ้นผ่านการทำศัลยกรรมตา ซึ่งจะทำให้ตากว้างขึ้น ช่วยเปิดหัวตา หรือหางตาให้ใหญ่ขึ้น รวมถึงการกรีดตาสองชั้น ที่ทำให้ตาหวาน และน่ามองยิ่งขึ้น

           ได้ทราบกันไปแล้วว่าการมีตาที่ดุนั้นมีผลเสียมากมายที่อาจตามมาได้ ไม่ว่าจะเป็นความมั่นใจที่ลดลง หรือผลต่อโหงวเฮ้งของเราที่จะทำให้ไม่มีคนเข้าหา ภาพลักษณ์ดูไม่เป็นมิตร และอาจส่งผลให้มีปัญหาในการติดต่องานและขาดความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจได้เลย ดังนั้น การแก้ปัญหาตาดุจึงสำคัญมากต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต และช่วยเสริมให้ดวงตามีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น จะมีวิธีอะไรบ้าง ไปดูกัน

การกรีดตาสองชั้น

           สำหรับผู้ที่มีตาชั้นเดียว มีปัญหาชั้นตาหลบใน ตาสองข้างไม่เท่ากัน หนังตาตก หนังตาเกิน หรือกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง การทำตาสองชั้น สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ โดยการกรีดเปลือกหนังตา หรือการกรีดหนังตาเพื่อเอากล้ามเนื้อและเปลือกตาส่วนที่เกินมาออก ซึ่งการกรีดตาจะมีการเอาไขมันส่วนเกินรอบดวงตาออกไปด้วย ก่อนจะตกแต่งหนังตาและเย็บชั้นตาให้สวยงาม จึงทำให้ดวงตาสวยขึ้น ตาหวานขึ้น ใบหน้าดูดีขึ้น และดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

การเย็บเปิดหางตา

           การเปิดหางตา เป็นการศัลยกรรมตา โดยการผ่าตัดบริเวณมุมตาด้านข้าง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหารูปทรงตาที่ดูสั้น เพราะจะทำให้พื้นที่ตาด้านข้างยาวขึ้น โดยแพทย์จะใช้เลเซอร์ในการตัดแต่งเปิดหางตาให้ยาวออกไป ก่อนจะเย็บเพื่อป้องกันไม่ให้หางตาปิด ทำให้จากตาดุๆ กลายเป็นดวงตาที่สวยโฉบเฉี่ยว และเรียวยาวมากขึ้น รวมถึงช่วยแก้ปัญหาหางตาดูชี้ขึ้นมากเกินไป ให้กลายเป็นดูตาโตขึ้นและตาหวานขึ้นได้

เทคนิคเปิดหัวตา

           นอกจากเทคนิคการเย็บเปิดหางตาแล้ว ยังมีเทคนิค การเปิดหัวตา อีกด้วย โดยเป็นการศัลยกรรมตกแต่งเนื้อที่คลุมปิดด้านหัวตา เพื่อให้ชั้นตาขยายช่วงหัวตา ซึ่งมักจะทำควบคู่กับการทำตาสองชั้น ช่วยแก้ปัญหาดวงตาที่มีลักษณะหัวตาปิด รูปตาดูแคบ มีเนื้อคลุมบริเวณหัวตาหนา หรือดวงตาดูห่างกัน หลังจากทำแล้วจะช่วยให้ตาดูเรียวยาว ตาโตขึ้น และตาหวานขึ้น ทำให้ดูสดใส อ่อนเยาว์ และน่าเข้าหามากยิ่งขึ้น

เทคนิคการยกคิ้ว

           บางครั้งการที่ตาดูดุ อาจจะเกิดปัญหาจากบริเวณตำแหน่งของคิ้วที่ไม่เท่ากัน คิ้วตก หรือคิ้วไม่ได้สัดส่วน ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเศร้าหมอง ไม่สดใส โหงวเฮ้งไม่ดี ดังนั้น การยกคิ้ว จึงเป็นอีกวิธีที่ทำให้ตาหวานได้ โดยจะทำการผ่าตัดผิวหนังบริเวณคิ้ว เพื่อยกผิวบริเวณคิ้วให้สูงขึ้นในระดับที่พอเหมาะ ซึ่งระดับคิ้วที่เหมาะสมของผู้หญิงจะอยู่ที่บริเวณเหนือขอบกระดูกเบ้าตา และหางคิ้วจะสูงกว่าหัวคิ้วเล็กน้อย สำหรับระดับคิ้วที่เหมาะสมกับผู้ชายจะอยู่ระดับที่พอดีกับขอบกระดูกเบ้าตา และหางคิ้วจะไม่สูงนักเมื่อเทียบกับผู้หญิง 

           หลังจากทำจะส่งผลให้คิ้วยกขึ้นในระดับที่พอเหมาะ คิ้วทั้งสองข้างดูเท่ากัน ผิวบริเวณเปลือกตาเรียบเนียนขึ้น ลดความหย่อนคล้อย และทำให้ใบหน้าได้สัดส่วนสวยขึ้น

การแก้ชั้นตาให้ดูเล็กลง

           การที่มีตาดุอาจเกิดจากการที่มีชั้นตาที่ดูหนาจนใหญ่เกินไปหรืออยู่สูงเกินไป ซึ่งสามารถแก้ได้โดยการทำชั้นตาให้ดูเล็กลง เพื่อช่วยให้ตาดูดุน้อยลง โดยแพทย์จะทำการเลาะพังผืดเก่าออก และเย็บตกแต่งชั้นตาใหม่ให้ดูเล็กลงอย่างเหมาะสมและดูสวยงาม

           ก่อนที่จะเข้ารับการศัลยกรรมเปลี่ยนตาดุให้สวยหวานนั้น ควรต้องเตรียมตัวโดยการตรวจสุขภาพก่อน หากมีโรคประจำตัวหรือยา และวิตามินที่ต้องทานอยู่เป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการศัลยกรรม ผู้ที่จะเข้ารับการทำตาต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงอาหารแสลงต่างๆ เช่น อาหารทะเล และของหมักดอง 

           สำหรับผู้ที่ฉีดโบท็อกซ์ให้งดฉีดโบท็อกซ์อย่างน้อย 1-2 เดือน เมื่อถึงวันผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดไม่ควรแต่งหน้ามา แต่ควรสระผมเอาไว้ก่อนผ่าตัด 1 วัน เนื่องจากหลังผ่าตัดไม่ควรให้แผลโดนน้ำ และควรลางานล่วงหน้าเผื่อไว้สำหรับการพักฟื้น นอกจากนี้ในวันผ่าตัดควรพาใครสักคนมาเป็นเพื่อนเพื่อรอรับกลับบ้าน ไม่ควรเดินทางกลับด้วยตัวคนเดียว

           วิธีการดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมเปลี่ยนตาดุให้เป็นตาหวานก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะถ้าหากได้รับการดูแลเป็นอย่างดี แผลผ่าตัดจะหายและเข้าที่ได้เร็วขึ้น โดยวิธีการลดอาการบวมหลังผ่าตัดทำได้ด้วยการประคบเย็นบริเวณรอบดวงตาในช่วงสัปดาห์แรก จากนั้นเปลี่ยนมาประคบอุ่นแทนในช่วงสัปดาห์ที่สอง และทำร่วมกับการนอนยกหัวสูง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด และลดการบวม นอกจากนี้สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากๆ ก็คือการดูแลรักษาความสะอาด ไม่ควรสัมผัสโดน หรือไปขยี้ตา รวมถึงห้ามให้แผลผ่าตัดโดนน้ำอย่างเด็ดขาด

           อีกสิ่งที่ต้องระวังก็คืออาหารแสลงต่างๆ ที่ได้งดก่อนที่จะเข้ารับการศัลยกรรม และหลังศัลยกรรมก็ต้องงดต่อไปเช่นเดียวกัน ไม่เช่นนั้นแผลอาจเกิดอาการคัน หรือแผลเป็นคีลอยด์ ที่มีลักษณะที่แผลนูนขึ้นมาได้ และผู้ที่เข้ารับการทำตาหวานจะต้องหมั่นคอยสังเกตอาการผิดปกติของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นแผลปริ เลือดออก เจ็บข้างในตา หรืออื่นๆ ถ้าหากพบอาการเหล่านี้ต้องรีบเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

• คุณหมอรวงข้าวเป็นผู้บุกเบิกการทำตาสองชั้นโดยจักษุแพทย์ในประเทศไทย
• ทีมแพทย์ Lovely Specialists ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีมาตรฐานเดียวกับคุณหมอรวงข้าว
• เทคนิคเฉพาะของหมอรวงข้าว New Lovely Microlaser ช่วยแก้ไขปัญหาดวงตาได้อย่างครบวงจร มีความละเอียดแม่นยำ และให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ
• รับประกันความปลอดภัย และได้รับความไว้วางใจมามากกว่า 14 ปี พร้อมผลงานกว่า 30,000 หัตถการ
• มีการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า และนำข้อมูลมาปรับปรุงบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าเสมอ
• มีห้องสเตอร์ไรด์ปราศจากเชื้อ “Lovely Surgical Instrument Sterile Unit” มาตรฐานโรงพยาบาล พร้อมเครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยไอน้ำ (Autoclave ผ่านการรับรอง ISO 13485:2016)
• ดูแลทุกเคสปัญหารอบดวงตา พร้อมให้บริการแบบ Private VIP Service เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการทุกคนได้รับความประทับใจ

สรุป

           ปัญหาตาดุ เป็นปัญหาที่มักเกิดจากการมีดวงตาค่อนข้างเล็ก มีตาชั้นเดียว หรือชั้นตาหลบใน หรือมีดวงตากลมโต หางตาชี้ขึ้น ซึ่งมีลักษณะดวงตาแบบนี้มาตั้งแต่กำเนิด ทำให้หน้าดุ เคร่งเครียด ดูโกรธ จนทำให้ผู้อื่นไม่กล้าเข้าหาพูดคุย รวมถึงทำให้โหงวเฮ้งดูไม่ดี และอาจขาดความน่าเชื่อถืออีกด้วย 

เทคนิคการศัลยกรรมเพื่อแก้ปัญหาตาดุให้เป็นตาสวยหวาน มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การกรีดตาสองชั้น การเย็บเปิดหางตา เทคนิคการเปิดหัวตา เทคนิคการยกคิ้ว และการแก้ชั้นตาให้ดูเล็กลง โดยสามารถทำการ