fbpx รักษาสิวฮอร์โมนอย่างไร? ให้เห็นผล หมดกังวลเรื่องสิวเผยผิวเนียนใส

รักษาสิวฮอร์โมนอย่างไร? ให้เห็นผล หมดกังวลเรื่องสิวเผยผิวเนียนใส

รักษาสิวฮอร์โมนอย่างไร ให้ได้ผล หยุดวงจรสิวฮอร์โมน ให้หน้าเนียนใส

Table of Contents

  1. ทำความรู้จักกับ สิวฮอร์โมน
  2. สาเหตุของการเกิดสิวฮอร์โมน
  3. ข้อสังเกตว่าเป็นสิวฮอร์โมนหรือไม่
  4. สิวฮอร์โมนรักษาได้อย่างไรบ้าง
  5. วิธีการดูแล และป้องกันไม่ให้เกิดสิวฮอร์โมน
  6. รักษาสิวฮอร์โมนกับ Lovely Eye & Skin Clinic ดีกว่ายังไง

 

            “สิวฮอร์โมน” คือสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นบนใบหน้าของตนเอง เป็นปัญหากวนใจทั้งผู้ชาย ผู้หญิง โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือสาวๆ ที่กำลังจะเป็นประจำเดือน สิวฮอร์โมนก็จะขึ้นมาบนใบหน้า อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งยังมีปัจจัยอย่างอื่นที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดสิวฮอร์โมนร่วมด้วย โดยบทความนี้จะกล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวฮอร์โมน เพื่อการรักษาสิวฮอร์โมนที่ตรงจุด และหยุดวงจรสิวฮอร์โมน ให้หน้าเนียนใส เรียกความมั่นใจกลับคืนมา

สิวฮอร์โมนเกิดจากการที่มีฮอร์โมนมากระตุ้นการผลิตน้ำมัน

ทำความรู้จักกับ สิวฮอร์โมน

           สิวฮอร์โมนเกิดจากการที่มีฮอร์โมนมากระตุ้นการผลิตน้ำมัน จึงทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาจากรูขุมขนมาก และเมื่อรวมกับสิ่งสกปรก แบคทีเรีย จนเกิดการอุดตัน กลายเป็นสิวฮอร์โมนในที่สุด โดยสิวฮอร์โมนจะมีลักษณะเป็นสิวอักเสบ ตุ่มนูนแดงขนาดใหญ่ มักขึ้นอยู่บริเวณรอบปาก กรอบหน้า คาง หรืออาจจะเห่อทั่วใบหน้าในบางคน

สาเหตุของการเกิดสิวฮอร์โมน

           การเกิดสิวฮอร์โมนนั้น สาเหตุหลักคือปริมาณฮอร์โมนที่ไม่สมดุลของร่างกาย สามารถเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย ส่วนใหญ่มักพบได้มากในวัยรุ่น แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่มีส่วนทำให้เกิดสิวฮอร์โมนร่วมด้วย ดังนี้

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย

เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศชายมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าวนั้นคือ แอนโดรเจน (Androgens) และเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ที่มีในทั้งเพศชายและเพศหญิง โดยฮอร์โมนทั้ง 2 ตัวนี้ จะไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันให้ผลิตไขมันมากกว่าปกติ จึงทำให้กลายเป็นไขมันส่วนเกิน

          นอกจากเพศหญิงที่มีประจำเดือน ยังมีสาเหตุอื่นที่ทำให้ฮอร์โมนผันผวนได้อีกด้วย เช่น การหยุดทานยาคุม การตั้งครรภ์ การเริ่มเข้าสู่วัยทอง การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเหล่านี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวฮอร์โมนที่สำคัญ 

พันธุกรรมที่บกพร่อง

หากพ่อแม่เป็นสิวฮอร์โมน มีโอกาสสูงมากที่ลูกจะเป็นสิวฮอร์โมนด้วยเช่นกัน เพราะสิวฮอร์โมนสามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม เนื่องจากมีพันธุกรรมหนึ่งที่เกี่ยวกับการผลิตซีบัมหรือน้ำมันบนผิวที่บกพร่องเป็นจำนวนมาก เป็นสาเหตุที่ทำให้การเกิดอุดตันและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรีย

ซึ่งสาเหตุของการเกิดสิวฮอร์โมนจากพันธุกรรมนั้น จะรักษายากกว่าสาเหตุอื่น จำเป็นต้องใช้ความอดทนและเวลาในการรักษา เพราะไม่มีการรักษาสิวฮอร์โมนใด ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงยีนได้ แต่ด้วยปัจจุบันมีเทคโนโลยีและหัตถการที่ช่วยในการรักษาสิวฮอร์โมน ที่ได้ผลลัพธ์ดีและเร็ว สามารถหายขาดได้เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

ความเครียดและสภาวะจิตใจ

ความเครียดอาจจะดูไม่มีเหตุผลที่ทำให้เกิดสิวฮอร์โมนได้เลย แต่รู้หรือไม่ การที่คนเราเครียดจะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ส่งผลต่อการผลิตไขมันของต่อมไขมัน และความเครียดเป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆ สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวฮอร์โมน ไม่ว่าจะเป็นการที่พักผ่อนไม่เพียงพอหรือระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ

พักผ่อนไม่เพียงพอ

การพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียแล้ว ยังส่งผลให้การหมุนเวียนของเลือดและน้ำเหลืองทำงานได้ไม่เต็มที่ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวฮอร์โมน ซึ่งควรจะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน จะทำให้ผิวและร่างกายฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่

วิธีสังเกตว่าเป็นสิวฮอร์โมนหรือไม่

ข้อสังเกตว่าเป็นสิวฮอร์โมนหรือไม่

           หากกำลังสงสัยว่า สิวที่อยู่บนใบหน้าของเรานั้นเป็นสิวฮอร์โมนหรือไม่ สามารถสังเกตลักษณะอาการของสิวฮอร์โมนได้ดังนี้

  • ช่วงอายุ  เป็นช่วงอายุที่ฮอร์โมนแปรปรวน ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยรุ่น ทั้งเพศหญิงและเพศชาย หรือช่วงวัยหมดประจำเดือนในเพศหญิง
  • บริเวณที่เกิดสิว เป็นอาการที่สังเกตได้ง่ายที่สุด เนื่องจากฮอร์โมนจะกระตุ้นต่อมไขมันบริเวณคางและกราม จึงสังเกตสิวฮอร์โมนตามคางหรือตามแนวกรามได้อย่างชัดเจน
  • ประเภทของสิวที่เป็น มักจะเป็นสิวอักเสบหรือสิวหัวช้าง ที่จะมีแบคทีเรียเข้ามาสะสมอุดตันในรูขุมขน ส่งผลให้เกิดการอักเสบและเกิดอาการเจ็บปวด
  • ความถี่หรือความต่อเนื่องของการเกิดสิว หากสิวเกิดขึ้นที่บริเวณเดิมๆ ซ้ำๆ ก่อนจะมีรอบเดือน ให้มั่นใจได้เลยว่า เป็นอาการของสิวฮอร์โมนอย่างแน่นอน

สิวฮอร์โมนรักษาได้อย่างไรบ้าง

สิวฮอร์โมนรักษาได้อย่างไรบ้าง

           การรักษาสิวฮอร์โมนนั้น ต้องอาศัยเวลาและความอดทนเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากต้องรักษาผิวหน้าภายนอกแล้ว จำเป็นต้องรักษาอาการและสุขภาพจากข้างใน หรือมีการปรับฮอร์โมนให้สมดุลอีกด้วย โดยสิวฮอร์โมน มีวิธีรักษาได้ ดังนี้

การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ

เริ่มจากวิธีแรก ด้วยการรักษาแบบธรรมชาติ วิธีนี้เหมาะกับคนที่เป็นสิวฮอร์โมนไม่หนักมาก โดยยังไม่ไปพบแพทย์หรือทายา แต่มีความต้องการที่จะรักษาด้วยตนเองเสียก่อน

  • น้ำมันทีทรีออยล์ ซึ่งเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ล้างหน้าหรือผลิตภัณฑ์กำจัดสิวทั่วไป โดยวิธีการรักษานั้นจะต้องนำน้ำมันทีทรีออยล์ 1 หยด นำมาเจือจางกับน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอก 12 หยด
  • ชาเขียว เป็นชาที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบ จึงทำให้สามารถรักษาสิวฮอร์โมนได้เป็นอย่างดี รักษาได้โดยการนำชาเขียวไปแช่น้ำร้อนและนำสำลีจุ่มลงไป จากนั้นนำมาเช็ดใบหน้า ให้คล้ายกับว่าชาเขียวเป็นโทนเนอร์

การรักษาด้วยการใช้ยา

           บางครั้งการทาครีมบำรุงหรือครีมรักษาสิวยี่ห้อต่างๆ ตามท้องตลาด อาจจะไม่ได้ผล เนื่องจากครีมไม่สามารถรักษาปัญหาได้ตรงจุด ดังนั้นการใช้ยารักษาสิวฮอร์โมนโดยเฉพาะจะมีประสิทธิภาพ สามารถรักษาตรงจุดได้มากกว่า

  • เบนแซค (Benzoyl peroxide) มีคุณสมบัติลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นตอของการเกิดสิว
  • กรดซาลิไซลิค (Salicylic acid) สามารถผลัดเซลล์หนังชั้นนอก กำจัดน้ำมันส่วนเกิน สิ่งสกปรก เพื่อลดการอุดตัน และลดการอักเสบได้
  • กรดอนุพันธ์ Vitamin A หรือเรตินอล (Retinol) ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันของรูขุมขน และลดเลือนริ้วรอยตั้งแต่แรกเริ่มได้ 

การรักษาด้วยหัตถการทางแพทย์

           ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีและมีวิธีการรักษาสิวฮอร์โมนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากมาย ที่คิดค้นมาเพื่อบรรเทาอาการอักเสบของสิวฮอร์โมน ฟื้นฟูสภาพผิว ร่องรอยของการเป็นสิวฮอร์โมน และใช้เวลารักษาไม่นานเหมือนเมื่อก่อน วิธีนี้มักเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะเป็นการรักษาที่สามารถหยุดต้นตอสิวฮอร์โมนได้อย่างตรงจุด 

  • การฉีดสิว เหมาะสำหรับสิวชนิดที่เป็นก้อนแข็งๆ ใต้ผิวหนัง ถึงแม้การรักษาวิธีนี้จะได้ผลดี แต่ควรจะมีการทายารักษาร่วมด้วย เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
  • การเลเซอร์และการบำบัดด้วยแสง เป็นการรักษาสิวฮอร์โมนที่ได้ผลดีและรวดเร็ว เนื่องจากเป็นการช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ และลดโอกาสที่จะเกิดรอยดำ รอยแดงหลังรักษา

วิธีการดูแล และป้องกันไม่ให้เกิดสิวฮอร์โมน

วิธีการดูแล และป้องกันไม่ให้เกิดสิวฮอร์โมน

  • สิวฮอร์โมน ดูเหมือนจะเป็นสิวที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่สามารถป้องกันและลดโอกาสเกิดสิวฮอร์โมนได้ ดังนี้
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
  • ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อส่งเสริมการทำงานของผิว ให้เซลล์และระบบต่างๆ สามารถทำงานได้ดี
  • ห้ามบีบ แคะ แกะ หรือใช้มือจับใบหน้าบริเวณเป็นสิว
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลี่ยงของหวาน ของมัน ที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดสิวได้
  • การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้าที่อ่อนโยน ไม่อุดตัน
  • ทำความสะอาดใบหน้าวันละ 2 ครั้ง
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ

รักษาสิวฮอร์โมนกับ Lovely Eye & Skin Clinic ดีกว่ายังไง

           สำหรับใครที่เป็นสิวฮอร์โมนและกำลังมองหาคลินิกรักษาสิวฮอร์โมนที่น่าเชื่อถือ มีแพทย์ที่มีประสบการณ์นั้น Lovely Eye & Skin Clinic เป็นคลินิกที่ตอบโจทย์คนเป็นสิวฮอร์โมนมากที่สุด ด้วยเทคนิคการรักษารูปแบบเฉพาะของคลินิก โดยแพทย์จะวิเคราะห์ปัญหาสิวฮอร์โมนของแต่ละคนก่อนว่าเกิดจากสาเหตุใด จากนั้นจะใช้เครื่องเลเซอร์ Spectra gold ที่จะช่วยลดรอยแดงสิวโดยเฉพาะ พร้อมทรีตเมนต์ Phono ที่ช่วยผลักตัวยาบำรุงให้ซึมเข้าผิวได้ดีมากขึ้น และรักษาด้วยเทคนิคเฉพาะอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด

สรุป

สิวฮอร์โมน คือสิวที่เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล ทำให้การต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามากกว่าปกติจนเป็นไขมันส่วนเกิน และทำให้อุดตันรูขุมขน จนเป็นสิวฮอร์โมนในที่สุด แต่การรักษาและป้องกันก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ ออกกำลังกายเป็นประจำ ทายาและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้สิวฮอร์โมนมีอาการบรรเทาลง หรือสิวไม่กลับมาเป็นอีกเมื่อรักษาถูกจุด