fbpx ผิวไหม้แดดกี่วันหาย มีวิธีแก้ผิวไหม้แดดยังไง ให้กลับมาสวยใสดังเดิม

ผิวไหม้แดดกี่วันหาย มีวิธีแก้ผิวไหม้แดดยังไง ให้กลับมาสวยใสดังเดิม

 ปัญหาผิวไหม้แดด พร้อมทั้งบอกวิธีแก้ผิวไหม้แดดที่ถูกต้อง

       จากสภาพอากาศที่ร้อนในไทย ที่มักมีแสงแดดจากดวงอาทิตย์ส่องสว่างจ้าอยู่เสมอ หลายคนที่ต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานๆ จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดดร้อนๆ โดยตรงได้ จนทำให้เกิดปัญหาผิวไหม้แดด หน้าไหม้แดด หรือปัญหาผิวคล้ำเสียสะสมจากแดด ซึ่งเป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นได้บ่อย หากมีอาการรุนแรงอาจนำไปสู่การแก่ก่อนวัยและมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง ในบทความนี้จะกล่าวถึงสาเหตุของการเกิดปัญหาผิวไหม้แดด พร้อมทั้งบอกวิธีแก้ผิวไหม้แดดที่ถูกต้องว่าควรรักษาอย่างไรบ้าง รวมถึงควรป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดผิวไหม้แดดอีก

Table of Contents

  1. ผิวไหม้แดดเกิดจากอะไร
  2. ความรุนแรงของผิวไหม้แดด
  3. วิธีแก้และดูแลรักษาผิวไหม้แดด
  4. วิธีป้องกันผิวไหม้แดด

ปัญหาผิวไหม้แดด (sun burn) เกิดจากการตากแดด

ผิวไหม้แดดเกิดจากอะไร

         ปัญหาผิวไหม้แดด (sun burn) เกิดจากการตากแดดเป็นเวลายาวนานโดยที่ผิวไม่ได้รับการปกป้องหรือทาครีมกันแดด หากผิวหน้าสัมผัสแดดสะสมเป็นเวลานาน ก็อาจกลายเป็นฝ้าแดดได้ ทั้งนี้อาการผิวไหม้แดดจะเกิดหลังได้รับแสงแดดประมาณ 2 – 6 ชั่วโมง หรืออาจมีอาการปรากฏให้เห็นหลังได้รับแสงแดดเพียง 30 นาทีก็ได้เช่นกัน

         รังสียูวีสามารถทำลายผิวหนังชั้นนอกจนเกิดการอักเสบกลายเป็นผิวไหม้แดด มีอาการแสบร้อน คัน บวมแดง มีอาการระคายเคือง เกิดเป็นตุ่มใส ในกรณีรุนแรงอาจจะเป็นแผลถึงขั้นพุพอง ผิวหนังลอกได้ในขณะทำการรักษา และสำหรับผิวหน้าจะเกิดการหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด 

         ผิวหนังที่เผชิญกับแสงแดดปริมาณมากเกินไปหรือนานเกิน 15 นาที จะได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่สามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมถึงผิวหนัง ดวงตา และมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งผิวหนัง หากเลือกวิธีแก้ผิวไหม้แดดอย่างไม่ถูกต้อง 

ระดับความรุนแรงของผิวไหม้แดด ผิวไหม้แดดกี่วันถึงจะหาย

ความรุนแรงของผิวไหม้แดด

         หลายคนอาจสงสัยว่าผิวไหม้แดดกี่วันถึงจะหาย หน้าไหม้แดดกี่วันถึงจะหาย ซึ่งระยะเวลาในการหายเป็นปกติขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการผิวไหม้แดด โดยแต่ละระดับจะมีอาการแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพผิว ระดับความรุนแรงของแสงแดด ระยะเวลาที่ผิวหนังสัมผัสแสงแดด เป็นต้น ความรุนแรงของผิวไหม้แดด สามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือ

  • ระดับหนึ่ง : ผิวหนังยังคงปกติแต่มีอาการแดง บางรายอาจรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ ผิวหนังจะเข้าสู่กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้ผิวบริเวณที่ไหม้แดดเกิดหลุดลอก ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายได้เองตามธรรมชาติ โดยผิวใหม่ที่ขึ้นมานั้นจะมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ แต่ร่างกายจะค่อยๆ ปรับตัวจนสีผิวสม่ำเสมอดีขึ้นในภายหลัง
  • ระดับสอง : ผิวหนังจะมีอาการไหม้ แสบ คัน บวมแดง หากสัมผัสบริเวณผิวที่ไหม้แดดอาจรู้สึกเจ็บปวด รวมถึงเกิดอาการผิวคล้ำเสีย ซึ่งใช้เวลาในการเฝ้าระวังและฟื้นบำรุงผิวให้กลับมาเป็นปกติประมาณ 1 สัปดาห์ อาจเกิดการผิวลอกหลังหายเป็นปกติประมาณ 2 – 3 วัน
  • ระดับสาม : ผิวหนังจะมีอาการไหม้แดดอย่างรุนแรง รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนัง มีอาการแดง คัน และมีตุ่มน้ำใสๆ (Second-degree sunburn) เกิดขึ้น อาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำและวิธีแก้ผิวไหม้แดดอย่างถูกต้อง ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 2 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล เพื่อฟื้นบำรุงผิวไหม้แดดและผิวหมองคล้ำให้กลับมาเป็นปกติ ทั้งนี้ความรุนแรงของผิวไหม้แดดระดับสามอาจเกิดขึ้นพร้อมกันกับโรคอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน เช่น โรคเพลียความร้อน (Heat exhaustion) และโรคลมแดดหรือฮีตสโตรก (Heat stroke) ซึ่งเกิดขึ้นได้บ่อยโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ

วิธีการแก้และดูแลรักษาผิวไหม้แดด มีหลายวิธี ไม่เกา ลอก แกะ เจาะ ผิวที่ไหม้แดด

วิธีแก้และดูแลรักษาผิวไหม้แดด

สำหรับวิธีการแก้และดูแลรักษาผิวไหม้แดด มีหลายวิธีในเบื้องต้นที่คุณสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยตนเอง ดังนี้

ไม่เกา ลอก แกะ เจาะ ผิวที่ไหม้แดด

เมื่อผิวไหม้แดด บริเวณผิวที่ไหม้นั้นจะเกิดกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งผิวจะมีความเปราะบางและไวต่อการระคายเคืองอย่างมาก จึงไม่ควรเกาผิว ลอกผิว แกะผิว ถึงแม้จะมีอาการคัน ทั้งในกรณีที่มีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้นตามร่างกายหรือผิวหน้าก็ไม่ควรเจาะตุ่มน้ำที่เกิดจากผิวไหม้แดด เพราะอาจเพิ่มระดับความรุนแรงของปัญหาได้ ควรปล่อยให้ตุ่มยุบหรือแตกเองตามธรรมชาติ หากมีอาการรุนแรงควรไปพบแพทย์ทันที

ให้ผิวได้ถูกน้ำเย็น

ถ้าผิวได้สัมผัสหรือผ่านน้ำเย็น ความเย็นจะช่วยบรรเทาอาการอักเสบและแสบร้อนบริเวณผิวไหม้แดดได้อย่างดี แต่ก็ต้องระมัดระวังไม่ใช้น้ำเย็นจัดจนเกินไป เพราะจะกลายเป็นการกัดผิวแทน ดังนั้นเมื่อพบว่ามีอาการผิวไหม้แดดที่อยู่ในระดับแรก ไม่รุนแรงมาก ก็สามารถบรรเทาอาการในขั้นต้นได้ ด้วยการให้ผิวผ่านน้ำเย็นหรือหาผ้าชุบน้ำเย็นมาประคบผิว จากนั้นดูแลและฟื้นฟูผิวด้วยวิธีต่างๆ ได้ด้วยตนเอง

สวมเสื้อผ้าที่มีขนาดหลวม

ผิวไหม้แดดจะมีความบอบบางและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย จึงควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีขนาดหลวม ไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อลดการเสียดสีระหว่างผิวหนังกับเสื้อผ้า และควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่ทอเนื้อแน่น มีเส้นใยที่สามารถป้องกันและสะท้อนรังสียูวีได้ในตัว (UPE) อีกทั้งการใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ก็ช่วยปกป้องผิวจากอาการไหม้แดดได้ ไม่ทำให้ผิวโดนแสงแดดเพิ่มเช่นกัน

การทาผิวด้วยว่านหางจระเข้ เป็นวิธีการรักษาและแก้ผิวไหม้แดดแบบธรรมชาติ

ทาผิวด้วยว่านหางจระเข้

การทาผิวด้วยว่านหางจระเข้ เป็นวิธีการรักษาและแก้ผิวไหม้แดดแบบธรรมชาติ เนื่องจากว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติลดการอักเสบ ลดอาการผิวแห้ง สูญเสียน้ำ ปลอบประโลมผิว และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทั้งยังอ่อนโยน ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ถือได้ว่าว่านหางจระเข้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดดและฟื้นฟูผิวให้กลับมาเป็นปกติได้ดี

ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น

การใช้ผลิตภัณฑ์หรือสกินแคร์บำรุงผิว จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง ฟื้นฟูให้ผิวกลับมาแข็งแรง และบรรเทาอาการผิวไหม้แดดได้ ดังนั้นหากกำลังคิดว่าเมื่อผิวไหม้แดดควรทาอะไรดี ก็ควรใช้เลือกผลิตภัณฑ์แบบมอยส์เจอไรเซอร์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว มอบความชุ่มชื้น ลดการอักเสบอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น สารสกัดจากใบบัวบก คาโมมายล์ วิตามินต่างๆ เป็นต้น

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การที่ผิวไหม้แดด ผิวหนังจะสูญเสียน้ำไปอย่างมาก ร่างกายจึงอยู่ในสภาวะต้องการน้ำมาซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ขาดน้ำ การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันจะเป็นการชดเชยและป้องกันการสูญเสียน้ำของร่างกาย ทั้งยังช่วยให้ฟื้นฟูอาการผิวไหม้แดดได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายอาจสูญเสียน้ำได้

งดออกแดดจนกว่าผิวจะหาย

 ผิวไหม้แดดจะมีความบอบบางทำให้ไวต่อแสง การออกไปสัมผัสกับแสงแดดอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองแพ้หนักกว่าเดิมได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาที่แดดรุนแรงมาก หากจำเป็นต้องออกไปเผชิญกับแสงแดดจริงๆ ควรทาครีมกันแดดก่อนเสมอ โดยวิธีใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมจะต้องทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง และควรสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดมิดชิดเพื่อป้องกันแสงแดดเมื่อต้องออกจากบ้าน

วิธีดูแลรักษาผิวไหม้แดดกัน โดยการทาครีมกันแดด

วิธีป้องกันผิวไหม้แดด

         เมื่อรู้วิธีดูแลรักษาผิวไหม้แดดกันไปแล้ว ต่อไปจะเป็นวิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้หลังจากนี้ ผิวหน้าและผิวกายโดนแสงแดดทำร้ายจนกลายเป็นผิวไหม้แดดอีก เราจึงควรปกป้องผิวก่อนไปเผชิญกับแสงแดดจัด โดยวิธีการดังนี้

ทาครีมกันแดด

 ในช่วงเวลาที่แดดจัดต้องปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดด เพราะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวถูกทำร้ายจากรังสียูวีเอ (UVA) และรังสียูวีบี (UVB) โดยควรใช้วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง ที่สำคัญต้องเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิวหน้าและผิวกาย ซึ่งควรทาครีมกันแดดทั้งผิวหน้าและผิวกายที่มี SPF ตั้งแต่ 30 และ PA++ ขึ้นไป ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 30 นาที และควรทาซ้ำทุกๆ 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อให้การป้องกันแสงแดดยังคงรักษาประสิทธิภาพเอาไว้ได้

แต่งตัวให้มิดชิด ปกปิดผิว

การแต่งตัวให้มิดชิด ปกปิดผิว เป็นการทำเพื่อให้ร่างกายได้สัมผัสกับแสงแดดน้อยที่สุด โดยสวมใส่เสื้อผ้าต่างๆ ที่มีขนาดสบายตัว เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หรือใช้อุปกรณ์กันแดดอื่นๆ อย่าง หมวก แว่นกันแดด ร่ม เป็นต้น สิ่งเหล่านี้นอกจากช่วยป้องกันรังสียูวีที่มากับแสงแดดแล้ว ยังช่วยลดการสูญเสียน้ำของร่างกายที่เกิดจากการโดนแดดโดยตรงอีกด้วย

เลือกช่วงเวลาในการเจอแสงแดด

ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการออกไปเจอแสงแดดในช่วงเวลากลางวันหรือตอนบ่าย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แดดมีความรุนแรงมาก เสี่ยงต่อการเกิดผิวไหม้แดดและมะเร็งผิวหนัง ส่วนช่วงเวลาที่ควรออกไปเจอแดด ควรเป็นช่วงที่แสงแดดมีประโยชน์ต่อร่างกายและไม่ก่อให้เกิดอาการผิวไหม้แดด คือ ตอนเช้าก่อน 9 โมง เวลา 06:00 – 08:00 น. และแสงแดดตอนเย็น หลัง 16:00 น. เป็นเวลา 10 – 20 นาที แสงแดดช่วงเวลานั้นจะมีวิตามิน D ช่วยเรื่องการดูดซึมแคลเซียม ป้องกันโรคกระดูกพรุน ทั้งยังช่วยเรื่องการย่อยอาหารได้อีกด้วย

สรุป

         ผิวไหม้แดด เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยและหลีกเลี่ยงได้ยาก เกิดจากการที่ผิวหนังโดนแสงแดดเป็นเวลานานโดยไม่ได้รับการปกป้อง ทำให้ผิวหนังชั้นนอกเกิดการอักเสบ แสบแดง เพราะถูกทำร้ายจากรังสีอัลตราไวโอเลต 

         หากมีอาการผิวไหม้แดดสามารถใช้วิธีแก้ไขและดูแลผิวไหม้แดดในเบื้องต้น โดยการไม่แกะ ไม่เกา ไม่ลอกผิว พร้อมบำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ และงดออกแดดจนกว่าผิวจะหายดี ส่วนการป้องกันไม่ให้เกิดผิวไหม้แดดอีกครั้งก็สามารถป้องกันได้ง่ายๆ โดยใช้วิธีทาครีมกันแดด แต่งตัวให้มิดชิด และหลีกเลี่ยงการออกไปเจอแสงแดดแรงๆ 

         ทั้งนี้หากใครต้องการรักษาผิวไหม้แดดหรือฟื้นฟูบำรุงผิวให้กลับมาสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องกังวลไป เพราะที่ LOVELY EYE & SKIN รักษาให้ได้ มีแพทย์ดูแลความงามของผิวพรรณและรูปร่างโดยเฉพาะ สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างละเอียดแม่นยำ โดยใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐานระดับ World Class รับรองว่าผิวที่เคยไหม้แดดจะกลับมาดูสวย สีผิวสม่ำเสมอแน่นอน