fbpx เลสิก (Lasik) คืออะไร เลสิกมีกี่แบบ ทำเลสิกครั้งแรกต้องรู้อะไรบ้าง 

เลสิก (Lasik) คืออะไร เลสิกมีกี่แบบ ทำเลสิกครั้งแรกต้องรู้อะไรบ้าง 

ทำความรู้จัก เลสิก คืออะไร มีกี่แบบ ก่อนทำต้องรู้อะไรบ้าง

            ปัญหาสายตา ถือว่าเป็นปัญหาที่หลายๆ คนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยเฉพาะปัญหาสายตาสั้นที่ส่งผลต่อการมองเห็นในการใช้ชีวิตประจำวัน จนทำให้ผู้ที่สายตาสั้นต้องแก้ปัญหาด้วยการสวมใส่แว่นสายตา หรือสวมใส่คอนแทคเลนส์ แต่ว่าในปัจจุบันนั้นปัญหาสายตาสั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำเลสิก หรือการศัลยกรรมผ่าตัดรักษาสายตาด้วยเลเซอร์ เพื่อช่วยให้ค่าสายตากลับมาเป็นเหมือนปกติ บทความนี้ จึงอยากพาไปสำรวจว่าการทำเลสิกคืออะไร เลสิกมีกี่แบบ มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง และการทำเลสิกราคาเท่าไหร่ พร้อมตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำเลสิก

Table of Contents

ทำความรู้จัก เลสิก คืออะไร

           Lasik (Laser In Situ Keratomileusis) หรือเลสิก คือ การศัลยกรรมผ่าตัดรักษาสายตาที่ผิดปกติแบบถาวร เช่น ปัญหาสายตาสั้น ปัญหาสายตายาว หรือปัญหาสายตาเอียง เป็นต้น โดยการทำเลสิกจะเป็นการผ่าตัดแยกชั้นกระจกตาที่มีให้เลือกใช้ด้วยกันหลากหลายเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นการใช้เลเซอร์ การใช้ใบมีดขนาดเล็ก หรือแบบไร้ใบมีด เพื่อปรับแต่งความโค้งของกระจกตาให้สามารถกลับมารับภาพได้อย่างชัดเจนเหมือนเดิม

เทคนิคการทำเลสิก มี 4แบบ 1. PRK 2.เลสิกใบมีด 3. เฟมโตเลสิก 4.เลสิกแบบไร้ใบมีด

เทคนิคการทำเลสิก มีกี่แบบ

           เทคนิคการทำเลสิกในปัจจุบันที่ได้รับความนิยม แบ่งออกได้เป็น 4 เทคนิค ได้แก่ PRK, เลสิกใบมีด, เฟมโตเลสิก และเลสิกไร้ใบมีด โดยแต่ละเทคนิคมีข้อดี ข้อเสีย และเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาแตกต่างกัน ดังนี้

1. PRK (Photorefractive Keratectomy)

           PRK (Photorefractive Keratectomy) เป็นการเลสิกที่จะไม่ได้แยกชั้นกระจกตาเหมือนกับเทคนิคอื่นๆ แต่จะเป็นการลอกกระจกผิวตาชั้นนอกออกก่อน และใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser) ในการปรับความโค้งของกระจกตา เพื่อให้การรับภาพกลับมาเป็นค่าสายตาปกติ และใช้คอนแทคเลนส์ปิดกระจกตาที่ทำการผ่าตัดประมาณ 5-7 วัน เพื่อช่วยลดอาการระคายเคืองตา และช่วยฟื้นฟูกระจกตาหลังจากรับการผ่าตัด

ใครบ้างที่เหมาะกับเทคนิค PRK

สำหรับผู้ที่เหมาะกับการทำเลสิกด้วยเทคนิค PRK (Photorefractive Keratectomy) มีดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงเล็กน้อย
  • ผู้ที่มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา เช่น อาการตาแห้ง
  • ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับกระจกตา เช่น กระจกตาผิดรูป กระจกตาบาง หรือกระจกตาเคยเป็นแผล
  • ผู้ที่มีข้อจำกัดในการทำเลสิกด้วยเทคนิคที่ต้องแยกกระจกชั้นตา
  • ผู้ที่มีข้อจำกัดในการทำเลสิกแบบอื่นๆ เช่น นักกีฬา ข้าราชการ หรือนักบิน เป็นต้น

ข้อดีของเทคนิค PRK

สำหรับข้อดีของการทำเลสิกด้วยเทคนิค PRK (Photorefractive Keratectomy) มีดังนี้

  • ใช้ยาชาแบบหยอดตา
  • ไม่มีการเย็บแผล
  • มีโอกาสในการเกิดอาการตาแห้งน้อยกว่าการเลสิกแบบอื่นๆ

ข้อจำกัดของเทคนิค PRK

สำหรับข้อจำกัดของการทำเลสิกด้วยเทคนิค PRK (Photorefractive Keratectomy) มีดังนี้

  • แก้ปัญหาค่าสายตาผิดปกติได้ค่อนข้างจำกัด เช่น สายตาสั้นไม่เกิน -600 สายตายาวไม่เกิน +500 และสายตาเอียงไม่เกิน -600 เป็นต้น
  • ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าการทำเลสิกแบบอื่นๆ
  • มีโอกาสในการเกิดอาการระคายเคืองได้มากกว่า

2. เลสิกใบมีด (Blade Lasik)

           เลสิกใบมีด หรือ Blade Lasik เป็นการเลสิกที่จะใช้ใบมีดในการผ่าตัด เพื่อทำการเปิดกระจกตา และใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser) ในการปรับความโค้งของกระจกตา เพื่อให้การรับภาพกลับมาเป็นค่าสายตาปกติ และปิดกระจกตาเข้าที่เดิม โดยที่ไม่ต้องใช้คอนแทคเลนส์ปิดทับเหมือนกับการเลสิกแบบ PRK

ใครบ้างที่เหมาะกับเทคนิค Blade Lasik

สำหรับผู้ที่เหมาะกับการทำเลสิกด้วยเทคนิคเลสิกใบมีด (Blade Lasik) มีดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงเล็กน้อย
  • ผู้ที่ต้องการทำเลสิก แต่มีเวลาในการพักฟื้นน้อย
  • ผู้ที่มีสุขภาพดวงตาเป็นปกติ เช่น ตาไม่แห้งง่าย กระจกตาไม่บาง เป็นต้น

ข้อดีของเทคนิค Blade Lasik

สำหรับข้อดีของการทำเลสิกด้วยเทคนิคเลสิกใบมีด (Blade Lasik) มีดังนี้

  • ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยกว่าการเลสิกแบบอื่นๆ
  • หลังจากผ่าตัดสามารถกลับมามองเห็นเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
  • มีโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองตาในระหว่างผ่าตัด และหลังผ่าตัดน้อย

ข้อจำกัดของเทคนิค Blade Lasik

สำหรับข้อจำกัดของการทำเลสิกด้วยเทคนิคเลสิกใบมีด (Blade Lasik) มีดังนี้

  • แก้ปัญหาค่าสายตาผิดปกติได้ค่อนข้างจำกัด เช่น สายตาสั้นไม่เกิน -1000 สายตายาวไม่เกิน +500 และสายตาเอียงไม่เกิน -600 เป็นต้น
  • มีโอกาสที่จะทำให้กระจกตามีแผลได้ง่าย แต่สามารถหายเองได้
  • มีโอกาสที่จะทำให้มีอาการตาแห้งได้ง่ายกว่าการเลสิกแบบอื่นๆ

3. เฟมโตเลสิก (Femto Lasik)

           เฟมโตเลสิก (Femto Lasik) เป็นการเลสิกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยเทคนิคเฟมโตเลสิกจะใช้เฟมโตเซคอนด์เลเซอร์ (Femtosecond Laser) ในการเปิดกระจกตา และใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser) ในการปรับความโค้งของกระจกตา ซึ่งทำให้เทคนิคนี้ใช้เลเซอร์ในการรักษาเป็นหลัก ส่งผลให้การทำเฟมโตเลสิกมีความแม่นยำ และปลอดภัยมากกว่าการทำเลสิกแบบอื่นๆ

ใครบ้างที่เหมาะกับเทคนิค Femto Lasik

สำหรับผู้ที่เหมาะกับการทำเลสิกด้วยเทคนิคเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) มีดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงค่อนข้างมาก
  • ผู้ที่มีภาวะกระจกตาบาง หรือปัญหาเกี่ยวกับกระจกตา
  • ผู้ที่มีขนาดตาเล็ก หรือเปิดตาได้ไม่มาก
  • ผู้ที่มีระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย

ข้อดีของเทคนิค Femto Lasik

สำหรับข้อดีของการทำเลสิกด้วยเทคนิคเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) มีดังนี้

  • ใช้ยาชาแบบหยอดตา
  • ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย
  • มีโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองน้อย
  • มีความแม่นยำ และมีความปลอดภัยสูง
  • มีโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงน้อย
  • กลับมามองเห็นได้ปกติอย่างรวดเร็ว

ข้อจำกัดของเทคนิค Femto Lasik

สำหรับข้อจำกัดของการทำเลสิกด้วยเทคนิคเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) มีดังนี้

  • มีโอกาสที่จะเกิดแผลบริเวณกระจกตา
  • มีโอกาสที่จะเกิดอาการตาแห้งได้
  • ในกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุหลังจากผ่าตัด อาจมีโอกาสที่กระจกตาเคลื่อนที่ได้

4. เลสิกแบบไร้ใบมีด (ReLEx Smile)

           เลสิกแบบไร้ใบมีด หรือ ReLEx Smile (Refractive Lenticule Extraction – Small incision lenticule extraction) เป็นอีกเทคนิคการเลสิกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยเทคนิคนี้จะใช้เลเซอร์เพียงตัวเดียว คือ เฟมโตเซคอนด์เลเซอร์ (Femtosecond Laser) เพื่อใช้ในการตัดเนื้อกระจกตาเป็นชิ้น และดึงออกผ่านแผลที่มีขนาดประมาณ 2-4 มิลลิเมตร จึงทำให้การเลสิกด้วยวิธีนี้เป็นวิธีที่รบกวนกระจกตาน้อยมากที่สุด

ใครบ้างที่เหมาะกับเทคนิค ReLEx Smile

สำหรับผู้ที่เหมาะกับการทำเลสิกด้วยเทคนิคเลสิกแบบไร้ใบมีด (ReLEx Smile) มีดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น หรือสายตาเอียงค่อนข้างมาก
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความหนาของกระจกตา เช่น กระจกตาบาง
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตา เช่น ตาแห้ง
  • ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับแรงกระเทือนบริเวณตา

ข้อดีของเทคนิค ReLEx Smile

สำหรับข้อดีของการทำเลสิกด้วยเทคนิคเลสิกแบบไร้ใบมีด (ReLEx Smile) มีดังนี้

  • มีความแม่นยำ และมีความปลอดภัยสูง
  • มีโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองน้อย
  • มีโอกาสที่จะเกิดอาการตาแห้งน้อยมาก
  • มีโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน หรือผลข้างเคียงน้อย
  • ไม่ต้องทำการผ่าตัดแยกชั้นกระจกตาก่อน

ข้อจำกัดของเทคนิค ReLEx Smile

สำหรับข้อจำกัดของการทำเลสิกด้วยเทคนิคเลสิกแบบไร้ใบมีด (ReLEx Smile) มีดังนี้

  • แพทย์ผู้ผ่าตัดต้องมีประสบการณ์ และมีความชำนาญสูง
  • ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นใกล้เคียงกับการเลสิกแบบใช้ใบมีด
  • แก้ไขได้เฉพาะปัญหาสายตาสั้น และสายตาเอียงเท่านั้น

การทำเลสิกช่วยแก้ปัญหาสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง

การทำเลสิกช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง

           การทำเลสิกเป็นวิธีการศัลยกรรมผ่าตัดที่ช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น และช่วยให้คุณภาพในการมองเห็นดีมากยิ่งขึ้น หรือกลับมาเป็นปกติ โดยปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นที่การทำเลสิกช่วยแก้ไขได้ มีดังนี้

1. ปัญหาสายตาสั้น

           ปัญหาสายตาสั้น เป็นปัญหาที่เกิดจากกระจกตามีความโค้งมากกว่าปกติ หรือลูกตามีความยาวเกินไป ทำให้เวลามองเห็นนั้นจะได้รับแสงตกกระทบ และการโฟกัสก่อนถึงจอประสาทตา ส่งผลให้เวลามองเห็นสามารถมองเห็นในระยะใกล้ชัดเจนกว่าระยะไกล

2. ปัญหาสายตายาว

           ปัญหาสายตายาว เป็นปัญหาสายตาที่สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภท ได้แก่ สายตายาวโดยกำเนิด และสายตายาวตามช่วงอายุ ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากกระจกตามีความโค้งน้อยกว่าปกติ หรือลูกตามีขนาดเล็กเกินไป ทำให้เวลามองเห็นนั้นจะได้รับแสงตกกระทบ และการโฟกัสหลังจอประสาทตา ส่งผลให้เวลามองเห็นสามารถมองเห็นในระยะไกลชัดเจนกว่าระยะใกล้

3. ปัญหาสายตาเอียง

           ปัญหาสายตาเอียง เป็นปัญหาที่เกิดจากกระจกตามีความโค้งในแต่ละแนวไม่เท่ากัน หรือกระจกตามีลักษณะไม่กลม ทำให้เวลามองเห็นนั้นจะได้รับแสงกระทบ และการโฟกัสที่จอประสาทตาคนละจุด ส่งผลให้เวลามองเห็นจะเห็นเป็นภาพซ้อน และสามารถเกิดร่วมกับปัญหาสายตาสั้น หรือสายตายาวได้

4. ปัญหาสายตาสั้น และมีสายตายาวตามวัย

           ปัญหาสายตาสั้น และสายตายาวตามวัย เป็นปัญหาที่เกิดจากความเสื่อมสภาพของดวงตาตามช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นความยืดหยุ่นของเลนส์ตาที่ลดลง แก้วตามีความยืดหยุ่นน้อยลง หรือกล้ามเนื้อตามีความอ่อนแรง ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาสายตาสั้น และสายตายาวพร้อมกันในช่วงสูงวัยได้ โดยปัญหาดังกล่าวนั้นจะทำให้มองในระยะใกล้ก็ไม่ชัด และมองในระยะไกลภาพก็เบลอ เพราะว่าจุดโฟกัสอยู่คนละจุด และทำให้เวลาที่ต้องใช้สายตาอาจต้องสลับการใช้งานของแว่นสายตาอยู่บ่อยๆ และอาจส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงอื่นๆ ตามมาได้ เช่น ปวดศีรษะ ปวดลูกตา หรือปวดหว่างคิ้ว เป็นต้น

ใครบ้างที่เหมาะกับการทำเลสิก

           การทำเลสิกเป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาสายตาได้ทั้งสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง แต่ว่าแต่ละคนที่มีปัญหาสายตาก็อาจมีเงื่อนไขในการรักษาที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งผู้ที่เหมาะกับการทำเลสิก มีดังนี้

  • ผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีค่าสายตาคงที่ หรือมีการเปลี่ยนแปลง + หรือ - ไม่เกิน 50
  • ผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง
  • ผู้ที่มีปัญหาในการมองเห็นที่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
  • ผู้ที่ไม่สะดวกต่อการสวมใส่แว่นสายตา หรือคอนแทคเลนส์เป็นประจำ
  • ผู้ที่ต้องทำงานในอาชีพที่ไม่สามารถสวมใส่แว่นสายตาได้
  • ผู้ที่มีกระจกตาหนา และมีความแข็งแรงเพียงพอต่อการทำเลสิก

การทำเลสิก ไม่เหมาะกับใคร

           ถึงแม้ว่าการทำเลสิกจะสามารถช่วยแก้ปัญหาสายตาได้ แต่ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำได้ เพราะการทำเลสิกยังมีข้อจำกัด มีความเสี่ยง และผลข้างเคียงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ซึ่งผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำเลสิก มีดังนี้

  • ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี และมีอายุมากกว่า 55 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพดวงตา เช่น ตาแห้ง ตาแดง หรือมีขี้ตาเยอะ
  • ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับดวงตา เช่น โรคต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม 
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระจกตา เช่น กระจกตาบาง กระจกตาแบนเกินไป หรือโค้งเกินไป
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการฟื้นฟูหลังจากเข้ารับการเลสิก
  • ผู้ที่มีอาการป่วย หรืออยู่ระหว่างการรักษาทางจิตเวช
  • ผู้ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ หรือการให้นมบุตร

ข้อดีของการทำเลสิก ช่วยแก้ไขปัญหาสายตาแบบถาวร

ข้อดีของการทำเลสิก

           สำหรับผู้ที่สนใจการอยากจะทำเลสิก หรือกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเลสิกก่อนตัดสินใจ ไปดูกันว่าการทำเลสิกมีข้อดีอย่างไรบ้าง

  • ช่วยแก้ไขปัญหาสายตาแบบถาวร
  • มองเห็นภาพได้อย่างชัดเจนในเวลาอันรวดเร็ว
  • ใช้เวลาในการผ่าตัดสั้น และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย
  • ไม่ต้องสวมใส่แว่นตา หรือคอนแทคเลนส์
  • เพิ่มความคล่องตัวในการใช้ชีวิตประจำวัน
  • เพิ่มความมั่นใจในบุคลิกภาพมากขึ้น
  • เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพมากขึ้น
  • สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลายมากขึ้น เช่น เล่นกีฬา

วิธีการเตรียมตัวก่อนทำเลสิก

           ก่อนเข้ารับการเลสิกต้องทำการเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้การรักษานั้นผ่านไปได้อย่างราบรื่น และเหมาะสมมากที่สุด โดยวิธีการเตรียมตัวก่อนทำเลสิก มีดังนี้

  • ผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์ ควรงดใส่คอนแทคเลนส์ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 7 วัน
  • งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 1-3 วัน
  • งดการรับประทานยารักษาสิวก่อนเข้ารับการผ่าตัด 1 เดือน
  • งดแต่งหน้าในวันที่เข้ารับการผ่าตัด
  • อาบน้ำ และสระผมให้สะอาดก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • ควรสวมใส่เสื้อที่ถอดสะดวก เช่น เสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า
  • รับประทานอาหาร และดื่มน้ำให้เพียงพอก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • หากมีโรคประจำตัว หรือมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ

ขั้นตอนการทำเลสิก

           สำหรับขั้นตอนในการทำเลสิกจะขึ้นอยู่กับเทคนิคที่แพทย์ใช้เลือกใช้ แต่โดยส่วนใหญ่ขั้นตอนในการทำเลสิกสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ขั้นตอนหลัก ดังนี้

1. ขั้นตอนการเปิดฝากระจกตา

           ขั้นตอนการเปิดฝากระจกตา เป็นขั้นตอนที่สามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่ การใช้ใบมีด และการใช้เลเซอร์ โดยแต่ละวิธีนั้นมีรายละเอียด ดังนี้

  • การใช้ใบมีด เป็นวิธีที่จะใช้ใบมีดในการผ่าตัดเปิดฝากระจกตา มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการเลเซอร์ และมักจะใช้ในเทคนิคการผ่าตัดแบบ PRK และเลสิกใบมีด
  • การใช้เลเซอร์ เป็นวิธีที่จะใช้เลเซอร์ในการผ่าตัดเปิดฝากระจกตา มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าแบบมีด แต่จะมีความแม่นยำมากกว่า และมักใช้ในเทคนิคเฟมโตเลสิก

2. ขั้นตอนการยิงเลเซอร์เพื่อปรับความโค้งของกระจกตา

           ขั้นตอนการยิงเลเซอร์ เพื่อปรับความโค้งของกระจกตาจะเป็นการใช้เลเซอร์ต่างๆ ตามแต่ละเทคนิค เพื่อปรับให้กระจกตากลับมามีความโค้งเป็นปกติ และช่วยให้การมองเห็น หรือค่าสายตากลับมาเหมือนเดิม และเมื่อทำการเลเซอร์เสร็จแล้ว ก็จะทำการปิดฝากระจกตากลับสู่ตำแหน่งเดิม

วิธีการดูแลตัวเองหลังทำเลสิก ในช่วงวันแรกควรสวมใส่ฝาครอบตาหลังจากผ่าตัดตลอดเวลา

วิธีการดูแลตัวเองหลังทำเลสิก

           หลังจากเข้ารับการทำเลสิกแล้วต้องดูแลตัวเองให้เหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ในการทำเลสิกมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยวิธีการดูแลตัวเองหลังจากเข้ารับการทำเลสิก มีดังนี้

  • ในช่วงวันแรกควรสวมใส่ฝาครอบตาหลังจากผ่าตัดตลอดเวลา
  • หลังจากวันแรกให้สวมใส่แว่นกันแดด
  • ใช้สายตาสลับกับการพักสายตาบ่อยๆ
  • ห้ามให้น้ำ ฝุ่น หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา
  • ห้ามขยี้ตา หรือใช้นิ้วสัมผัสบริเวณรอบดวงตา
  • หยอดยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • งดการแต่งหน้าประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากผ่าตัด
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออก หรือกิจกรรมทางน้ำ
  • เข้าพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อติดตามผล

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการทำเลสิก

           หลังจากเข้ารับการทำเลสิกอาจมีผลข้างเคียง หรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เกิดขึ้นได้ในระยะแรก แต่ว่าอาการต่างๆ จะค่อยๆ ดีขึ้นได้ด้วยตัวเอง โดยผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากทำเลสิก มีดังนี้

  • มีอาการระคายเคืองตาในช่วง 1-3 วันแรก
  • มีอาการมองเห็นไม่ชัด หรือมีอาการตาพร่ามัว
  • มีอาการตาแห้ง หรือน้ำตาไหลได้ง่ายกว่าปกติ
  • มีอาการมองเห็นแสงไฟแตกกระจายในช่วงกลางคืน
  • มีอาการปวดตา แต่สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้

สรุป

           การทำเลสิกเป็นวิธีที่สามารถแก้ไขได้ทั้งปัญหาสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย เพราะเป็นวิธีการผ่าตัดที่ใช้อาศัยเลเซอร์ในการรักษาเป็นหลัก ทำให้ทุกคนสามารถกลับมามองเห็นได้ชัดเจนในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งการมีสายตาที่ดีทำให้ไม่จำเป็นต้องสวมใส่แว่น หรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป ส่งผลให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น และมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น หากใครอยากจะเลิกใส่แว่น ใส่คอนแทคเลนส์ หรืออยากมีค่าสายตาปกติเหมือนเดิม การทำเลสิกตาก็ถือว่าเป็นอีกวิธีที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำเลสิก (FAQ)

           สำหรับผู้ที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเลสิก หรือกำลังสนใจอยากจะทำเลสิก แต่ว่ายังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำเลสิก ในหัวข้อนี้ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำเลสิก เพื่อไขทุกข้อสงสัยให้กับทุกคนแล้ว ดังนี้

1. กระจกตาบางทำเลสิกได้หรือไม่

           สำหรับผู้ที่ความหนาของกระจกตาน้อยกว่า 480 ไมครอน หรือผู้ที่มีกระจกตาบางมากจะไม่สามารถทำเลสิกได้ เพราะอาจทำให้ผลลัพธ์ในการทำเลสิกไม่มีประสิทธิภาพ หรือเกิดผลข้างเคียงจากการทำเลสิกได้ ทั้งนี้ ผู้ที่มีกระจกตาบางสามารถทำการปรึกษาจักษุแพทย์ เพื่อหาแนวทางในการรักษาปัญหาสายตาด้วยวิธีอื่นๆ ได้

2. สายตาสั้นเท่าไร ทำเลสิกไม่ได้

           สำหรับคำถามที่ว่าสายตาสั้นเท่าไหร่ทำเลสิกไม่ได้ คำตอบ คือ ไม่มีการจำกัดค่าสายตา เพราะว่าการทำเลสิกนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่าสายตาเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น สุขภาพของดวงตา การเปลี่ยนแปลงของค่าสายตา อายุ รวมถึงการวินิจฉัย และดุลยพินิจของจักษุแพทย์ด้วย

3. การทำเลสิก มีข้อเสียไหม

           สำหรับการทำเลสิกมักมีเพียงผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นในช่วงระยะแรกหลังจากเข้ารับการผ่าตัด เช่น อาการระคายเคืองตา มองเห็นภาพซ้อน ปวดตา น้ำตาไหล หรือตาแห้ง ซึ่งเป็นอาการที่สามารถหายเองได้ จึงไม่ถือว่าเป็นการทำเลสิกแล้วเกิดข้อเสียตามมา

4. อายุเท่าไร ถึงทำเลสิกได้

           สำหรับคำถามที่ว่าทำเลสิกต้องอายุเท่าไหร่ คำตอบ คือ อายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 55 ปีขึ้นไป และมีค่าสายตาคงที่ประมาณ 1-2 ปี เพื่อให้การทำเลสิกนั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัย และดุลยพินิจของจักษุแพทย์ด้วย

5. ทำเลสิกราคาเท่าไร

           สำหรับการทำเลสิกราคาเท่าไร จะขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ในการทำเลสิก โดยราคามาตรฐานของการทำเลสิกในแต่ละเทคนิค มีดังนี้

  • PRK จะมีราคาอยู่ประมาณที่ 35,000 - 50,000 บาท
  • เลสิกใบมีด จะมีราคาอยู่ประมาณที่ 30,000 - 45,000 บาท
  • เฟมโตเลสิก จะมีราคาอยู่ประมาณที่ 70,000 - 100,000 บาท
  • เลสิกไร้ใบมีด จะมีราคาอยู่ประมาณที่ 90,000 - 120,000 บาท