fbpx 5 วิธีรักษาหลุมสิว ช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียน บอกลาหน้าเปลือกส้ม

5 วิธีรักษาหลุมสิว ให้ผิวกลับมาเรียบเนียน บอกลาหน้าเปลือกส้ม

 5 วิธีรักษาหลุมสิว ให้ผิวเรียบเนียน หลุมสิวมีหลายประเภท และมีความรุนแรงที่แตกต่างกัน

        ปัญหาสิวไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะหลังจากสิวหายแล้วยังมีสิ่งที่ตามมา และน่าปวดใจที่สุด คือ หลุมสิว ซึ่งเป็นปัญหาผิวที่ถือว่ารักษาได้ยาก ทำให้ต้องหาวิธีรักษาหลุมสิวที่ถูกต้อง เพื่อให้ผิวกลับมาเรียบเนียน สม่ำเสมออีกครั้ง ไม่เป็นผิวเปลือกส้ม หรือผิวดวงจันทร์ ถึงแม้ปัญหาหลุมสิวจะไม่ได้ร้ายแรง แต่การปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตได้มาก บทความนี้จะพามาดูกันว่า 5 วิธีลดหลุมสิวที่เป็นวิธีรักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติมีอะไรบ้าง และวิธีรักษาหลุมสิววิธีไหนดีที่สุด

Table of Contents

  1. หลุมสิว คืออะไร 
  2. สาเหตุของการเป็นหลุมสิว
  3. 5 วิธีรักษาหลุมสิว ให้ผิวเรียบเนียน
  4. วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิว
  5. รักษาหลุมสิวที่ Lovely Eye & Skin Clinic ดียังไง

หลุมสิว (Atrophic Scars) คือ ปัญหาผิวชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการเป็นสิวอักเสบ สิวอุดตัน

หลุมสิว คืออะไร 

         หลุมสิว (Atrophic Scars) คือ ปัญหาผิวชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังจากการเป็นสิวอักเสบ รวมถึงสิวอุดตัน โดยมีลักษณะเป็นรอยแผลที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง มีสาเหตุมาจากการอักเสบในชั้นลึกของผิวหนังชั้นใน หรือกลุ่มสิวที่มีหนองขนาดใหญ่ เช่น สิวหัวช้าง ซึ่งหลังจากที่แผลหายดีแล้ว ผิวหนังไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้เต็มที่ ทำให้เกิดเป็นชั้นผิวที่ไม่เรียบเนียน เกิดเป็นหลุมสิว และร่องลึกนั่นเอง

สาเหตุของหลุมสิว เกิดจากการซ่อมแซมผิวที่ไม่สมบูรณ์หลังจากที่ผิวเกิดปัญหาสิว

สาเหตุของการเป็นหลุมสิว

         สาเหตุของการเกิดหลุมสิว มาจากกระบวนการซ่อมแซมผิวที่ไม่สมบูรณ์หลังจากที่ผิวเกิดปัญหาสิว ซึ่งกระบวนการนี้เป็นวิธีทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นโดยธรรมชาติ หรือเป็นกลไกที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเอง โดยหลังจากเป็นสิวอักเสบ หรือสิวอุดตัน ผิวหนังจะกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ และสร้างคอลลาเจนล้อมรอบบริเวณที่อักเสบโดยมีระยะเวลาอยู่ที่ประมาณ 7-10 วัน หากกระบวนการนี้ทำงานได้เต็มรูปแบบ จะทำให้ผิวหนังสมานตัวกันได้ดี เรียบเนียน ไม่เกิดหลุมสิว แต่เมื่อกระบวนการฟื้นฟูเซลล์ผิวนี้เกิดขึ้นไม่สมบูรณ์ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นรอยแผลอย่างหลุมสิวนั่นเอง

วิธีรักษาหลุมสิว แบบธรรมชาติด้วยตัวเอง และวิธีรักษาหลุมสิวกับแพทย์

5 วิธีรักษาหลุมสิว ให้ผิวเรียบเนียน

         หลุมสิวมีหลายประเภท และมีความรุนแรงที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องเลือกใช้วิธีรักษาหลุมสิวที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งมีทั้งวิธีรักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติด้วยตัวเอง และวิธีรักษาหลุมสิวกับแพทย์ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย โดยจะมีวิธีรักษาหลุมสิวแบบไหนบ้างที่เหมาะสม การรักษาหลุมสิววิธีไหนดีที่สุด เหมาะกับคุณมากที่สุด ลองมาดูวิธีลดหลุมสิวไปพร้อมกัน ดังนี้

1. วิธีรักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติ

         วิธีรักษาหลุมสิววิธีแรก คือ วิธีรักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติ เป็นวิธีทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นธรรมชาติ สามารถทำได้ด้วยตนเองที่บ้านไม่อันตราย เพราะเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติรอบตัว ไม่ใช้สารเคมี จึงลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้สูง ถึงแม้ว่าวิธีการรักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติอาจจะใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลแต่ก็เป็นวิธีลดหลุมสิวที่น่าสนใจ และสามารถทำตามได้สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด หรือมีปัญหาหลุมสิวไม่เยอะมาก

สูตรว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในวิธีรักษาหลุมสิวที่ทำเองได้ เพราะในว่านหางจระเข้เต็มไปด้วยสรรพคุณมากมายที่ดีต่อผิวพรรณ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยสมานผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าได้อย่างอ่อนโยน สูตรว่านหางจระเข้จะช่วยลดการอักเสบของผิวได้ดี และเป็นวิธีลดหลุมสิวที่ทำเองได้ที่บ้าน

วิธีรักษาหลุมสิวด้วยสูตรว่านหางจระเข้ คือ ให้นำว่านหางจระเข้มาทำความสะอาดด้วยการแช่น้ำสะอาด และลอกเมือกออก จากนั้นปลอกเปลือก และล้างน้ำอีกครั้ง นำวุ้นใสของว่านหางจระเข้มาพอกไว้ที่ผิวหน้าเป็นเวลา 30 นาที หลังจากนั้นให้ล้างทำความสะอาดผิวหน้า

สูตรน้ำมะพร้าวสกัดเย็น

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นเป็นวิธีรักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติ เพราะมีคุณสมบัติช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย และสารอนุมูลอิสระช่วยให้แผลเป็นอ่อนนุ่มลงได้ 

วิธีรักษาหลุมสิวด้วยน้ำมันมะพร้าว คือ นำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นทาให้ทั่วหน้าก่อนนอนแล้วทิ้งไว้ทั้งคืนโดยไม่ต้องล้างออก และทำความสะอาดผิวหน้าปกติในตอนเช้า

สูตรมะละกอ

มะละกอเป็นอีกวิธีรักษาหลุมสิวที่ทำเองได้ง่ายๆ ช่วยดูแลปัญหาหลุมสิวที่ไม่ลึกมากได้ดี ในมะละกอมีสรรพคุณสำคัญ คือ ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวที่เสื่อมโทรมหลุดออกอย่างอ่อนโยน ช่วยลดการอักเสบ และมีส่วนช่วยสมานรอยแผลอย่างรอยสิวตื้นๆ ได้เป็นอย่างดี 

การใช้มะละกอเป็นวิธีรักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติ โดยใช้เนื้อของมะละกอมาบดให้ละเอียดด้วยส้อม แล้วนำมาพอกที่ผิวหน้าทิ้งไว้เป็นเวลา 15 นาที จากนั้นให้ล้างออก

สูตรน้ำมะนาว และมะเขือเทศ

วิธีลดหลุมสิวด้วยสูตรน้ำมะนาว และมะเขือเทศเป็นวิธีทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นธรรมชาติ เพราะในน้ำมะนาว และมะเขือเทศมีกรดผลไม้อย่าง AHA อยู่นั่นเอง ซึ่งมีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าได้อย่างอ่อนโยน ช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น เป็นวิธีลดหลุมสิวง่ายๆ ด้วยตนเองได้ที่บ้าน

สูตรวิธีรักษาหลุมสิวด้วยน้ำมะนาว และมะเขือเทศทำได้ง่ายๆ โดยบดมะเขือเทศผสมกับน้ำมะนาว แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออก

สูตรหอมแดง และน้ำมะนาว

วิธีรักษาหลุมสิวด้วยสูตรหอมแดง และน้ำมะนาวเป็นวิธีทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นธรรมชาติ เพราะในหอมแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง และในน้ำมะนาวมีกรดผลไม้อย่าง AHA จึงเป็นวิธีลดหลุมสิวได้ดีแบบธรรมชาติที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน 

วิธีการใช้หอมแดง และน้ำมะนาวรักษาหลุมสิว คือนำหอมแดงไปทุบจนมีน้ำมันหอมระเหยออกมาแล้วผสมน้ำมะนาวกับน้ำมันหอมระเหยเข้าด้วยกัน จากนั้นนำมาแต้มที่บริเวณหลุมสิวบนใบหน้าทิ้งไว้ 10 นาทีจากนั้นล้างออก ควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

สูตรใบบัวบก

มาถึงวิธีรักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติสูตรสุดท้าย คือ สูตรที่นำใบบัวบกมาใช้ โดยในใบบัวบกมีสรรพคุณรักษาสิว ลดการอักเสบ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นฟูเซลล์ผิว กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้สามารถช่วยลดหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้นได้ 

วิธีใช้ใบบัวบกเป็นวิธีลดหลุมสิวให้ตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีวิธีการ คือ นำใบบัวบกประมาณ 1 กำมาบดแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที สามารถพอกได้ทั้งแบบแยกกาก และแบบผสมกับน้ำใบบัวบก ซึ่งสูตรใบบัวบกเป็นวิธีรักษาหลุมสิวที่ง่าย ประหยัดงบ แต่ต้องอาศัยระยะเวลา ความอดทน และความต่อเนื่อง ถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

2. วิธีรักษาหลุมสิวด้วยการทายา

         วิธีรักษาหลุมสิวด้วยการทายา เป็นการนำยากลุ่มที่มีสาร Retinoids ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญ คือ ช่วยผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และสารกลุ่มกรดที่มีสรรพคุณสำคัญในการผลัดเซลล์ผิว โดยการใช้ยากลุ่ม Retinoids ซึ่งมีหลายประเภทด้วยกัน มีทั้งยาที่ใช้รักษาสิว ใช้รักษาได้ทั้งสิว และหลุมสิวรวมถึงยาที่ใช้รักษาหลุมสิวเพียงอย่างเดียว ถึงแม้ว่าการใช้ยาจะเป็นวิธีรักษาหลุมสิวที่อาจไม่ได้ผลรวดเร็วนัก แต่หากใช้อย่างสม่ำเสมอก็สามารถช่วยให้หลุมสิวตื้นๆ นั้นดีขึ้นได้ 

ปัญหาผิว หลุมสิวแบบตื้นๆ ดูแลด้วย Smooth Smart Cream ครีมรักษารอยแผลสูตรเข้มข้นที่ช่วยลดรอยพร้อมกับเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว มีส่วนผสมหลักจากหอมแดง และเมือกหอยทาก จึงมีส่วนช่วยลดรอยแผลเป็น ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

3. วิธีรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์

         วิธีรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์เป็นวิธีลดหลุมสิวที่ได้รับความนิยมสูง เพราะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงหลังการรักษาได้รวดเร็วกว่าวิธีอื่นๆ โดยเลเซอร์ที่นิยมในปัจจุบันคือการใช้ Pico Laser ซึ่งเป็นเครื่องเลเซอร์ที่ใช้พลังงานเลเซอร์ยิงตรงไปที่ชั้นผิว โดยพลังงานจากเลเซอร์จะไปกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว พร้อมผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ทำให้ปัญหาหลุมสิวแลดูตื้นขึ้น ข้อดี คือ เป็นวิธีที่เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่มีข้อควรระวัง คือ อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย และอาจทิ้งรอยแดงหลังทำบ้างเล็กน้อย

4. วิธีรักษาหลุมสิวด้วยคลื่นวิทยุ 

         วิธีรักษาหลุมสิวด้วยคลื่นวิทยุ (RF) เป็นวิธีลดหลุมสิวโดยใช้กระบวนการที่คล้ายกับเลเซอร์ โดยเครื่องจะปล่อยพลังงานความร้อนเข้าไปที่ชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา การรักษาหลุมสิวด้วยคลื่น RF เป็นวิธีรักษาหลุมสิวที่เกิดผลข้างเคียงหลังทำเล็กน้อย เช่น มีรอยแดง หน้าบวม และอาจใช้ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่าวิธีรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์

5. วิธีรักษาหลุมสิวด้วยการลอกผิว

         วิธีรักษาหลุมสิวด้วยการลอกผิว หรือ Chemical Peeling คือ การใช้กรดความเข้มข้นระดับต่างๆ ทำให้เซลล์ผิวหนังหลุดลอกออกมา เพื่อให้รอยหลุมสิวเรียบเนียน สม่ำเสมอกันมากขึ้น วิธีรักษาหลุมสิวด้วยการลอกผิวแบ่งได้เป็น 3 ระดับด้วยกัน ได้แก่

  • ผิวหนังชั้นกำพร้า ช่วยลดรอยแดง รอยดำจากสิว ช่วยให้ผิวนุ่ม มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิว อีกทั้งยังเป็นวิธีช่วยลดหลุมสิวประเภท Icepick Scars และ Rolling Scars ได้ 
  • ผิวหนังแท้ชั้นตื้น เป็นการใช้กรด TCA หรือ Trichloroacetic acid ซึ่งเป็นวิธีลดหลุมสิวประเภท Icepick Scars และ Box Scars
  • ผิวหนังแท้ชั้นลึก คือวิธีรักษาหลุมสิวด้วยสาร Phenol เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวชั้นลึก เพื่อให้หลุมสิวตื้นขึ้น แต่เป็นวิธีที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะต้องใช้เข็มขนาดเล็กแต้มตัวยาไปที่ใต้หลุมสิว เสี่ยงเกิดรอยดำ และรอยแผลเป็นได้มากกว่าการลอกผิวระดับชั้นตื้น

วิธีรักษาหลุมสิวที่ดี คือ การป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวตั้งแต่เริ่มเกิดปัญหาสิวขึ้น

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิว

         วิธีรักษาหลุมสิวที่ดี คือ การป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวตั้งแต่เริ่มเกิดปัญหาสิวขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ดีกว่าการรักษา ที่สำคัญยังมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่ามาก โดยสามารถป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวได้ง่ายๆ ดังนี้ 

  • เริ่มรักษาสิวอย่างถูกวิธีกับแพทย์ผิวหนัง ช่วยลดโอกาสเกิดหลุมสิวได้ 
  • ห้ามกด แคะ แกะ หรือบีบสิวเองเด็ดขาด
  • หากมีสิวเล็กๆ น้อยๆ ให้รีบทายากลุ่ม Retinoids
  • เมื่อสิวแห้ง ห้ามแกะสะเก็ดโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดหลุมสิวได้
  • หากพบว่ามีแนวโน้มเกิดหลุมสิวง่าย ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาทางแก้ไข

รักษาหลุมสิวที่ Lovely Eye & Skin Clinic ดียังไง

         Lovely Eye & Skin Clinic คลินิกที่ให้บริการความงามแบบครบครัน ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีคุณภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐานในระดับ World Class อีกทั้งยังมีบริการรักษาหลุมสิวที่ใช้เทคนิคการรักษาเฉพาะอย่าง Smooth Plus โปรแกรมที่ช่วยเรื่องหลุมสิว รอยสิว รูขุมขนกว้าง และรอยแตกลาย เพื่อช่วยเผยผิวสวยเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ แก้ปัญหาจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอด้วยการผลัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเซลล์ผิวใหม่

         นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรม Pico Plus Premium Laser เทคโนโลยีการเลเซอร์ผิวหน้าใสที่ช่วยสยบได้ทุกปัญหาผิว เผยผิวใหม่ ไม่ทำร้ายผิวเดิม ไม่ทำให้ผิวบาง ช่วยลดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ รูขุมขนแลดูเล็กลง ช่วยเติมเต็มหลุมสิวที่ลึกให้ตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนดูสม่ำเสมอ พร้อมช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

สรุป

         หลุมสิวเกิดจากกระบวนการซ่อมแซมผิวหลังเกิดสิวอักเสบ และสิวอุดตันที่ไม่สมบูรณ์ การสมานผิวเป็นไปได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ต้องพึ่งวิธีรักษาหลุมสิว โดยมีทั้งวิธีรักษาหลุมสิวแบบธรรมชาติ และวิธีลดหลุมสิวด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ โดยการรักษาที่เห็นผลรวดเร็วที่สุด คือ การรักษาหลุมสิวด้วยการลอกผิว และการทำเลเซอร์ อย่างไรก็ตาม หากถามว่ารักษาหลุมสิววิธีไหนดีที่สุด คำตอบคือการป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวตั้งแต่ต้น เริ่มตั้งแต่การรักษาสิวอย่างถูกวิธี ไม่บีบ แคะ แกะสิวเอง หรือมาปรึกษาแพทย์ที่ Lovely Eye & Skin Clinic ให้คุณหมอช่วยดูแลผิวหน้าของคุณให้กลับมาสวยใสมั่นใจอีกครั้ง